ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    ผู้เขียน: collinbroad-admin

    แตงโมไม่ควรแช่ตู้เย็น

    ทำไมแตงโมไม่ควรแช่ตู้เย็น? เคล็ดลับเก็บแตงโมให้อร่อยนาน

    หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมแตงโมไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น คำตอบนั้นซ่อนอยู่ในการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดขึ้นเมื่อแตงโมสัมผัสกับอุณหภูมิต่ำ

    ทำไมแตงโมจึงไม่ชอบความเย็น?

    • อาการสะท้านหนาว: เมื่อแตงโมถูกนำไปแช่ในตู้เย็น เนื้อแตงโมจะเกิดอาการสะท้านหนาว (Chilling injury) ทำให้เนื้อแตงโมเปลี่ยนสีเป็นจุดๆ รสชาติจืดชืด และเนื้อสัมผัสเปลี่ยนแปลงไป
    • การสูญเสียรสชาติ: ความเย็นจะทำลายเอนไซม์ที่ช่วยให้แตงโมมีรสชาติหวานฉ่ำ ทำให้รสชาติของแตงโมลดลงอย่างเห็นได้ชัด
    • การเติบโตของเชื้อรา: แม้ว่าตู้เย็นจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่ความชื้นในตู้เย็นกลับเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้แตงโมเน่าเสียได้เร็วขึ้น

    วิธีการเก็บแตงโมให้อร่อยนาน

    • อุณหภูมิห้อง: วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บแตงโมคือการวางไว้ในที่ที่อุณหภูมิห้องปกติ หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
    • ที่ร่ม: หากอากาศร้อนจัด สามารถนำแตงโมไปเก็บไว้ในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
    • ห่อด้วยกระดาษ: การห่อแตงโมด้วยกระดาษจะช่วยดูดซับความชื้นและป้องกันไม่ให้แตงโมสัมผัสกับอากาศโดยตรง
    • อย่าตัดแบ่ง: ควรตัดแตงโมเป็นชิ้นๆ เมื่อต้องการรับประทานเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อแตงโมสัมผัสกับอากาศและเสื่อมเสีย

    เคล็ดลับเพิ่มเติม

    • เลือกแตงโมสุก: เลือกแตงโมที่สุกงอมดีจะมีรสชาติหวานอร่อยกว่าแตงโมที่ยังไม่สุก
    • สังเกตสี: แตงโมสุกจะมีสีเหลืองอ่อนบริเวณรอยต่อกับพื้นดิน
    • เคาะเบาๆ: แตงโมสุกจะให้เสียงทุ้มเมื่อเคาะเบาๆ
    • ตรวจสอบน้ำหนัก: แตงโมสุกจะมีน้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาด

    สรุป

    การเก็บแตงโมในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยรักษารสชาติและคุณค่าทางอาหารได้อย่างยาวนาน การหลีกเลี่ยงการแช่ตู้เย็นจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินกับความอร่อยของแตงโม

    เอกพันธ์บรรลือฤทธิ์

    บีบหัวใจ! ไทด์ เอกพันธ์ นำทีมช่วยชีวิตหญิงสาวกลางกระแสน้ำเชี่ยวที่แม่สาย

    ช่วงค่ำของวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวรายหนึ่งที่ติดอยู่บนรั้วกลางกระแสน้ำเชี่ยวที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่หญิงสาวพยายามเดินลัดเลาะไปตามริมน้ำเพื่อไปยังบ้านเพื่อนบ้าน แต่ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดล้มลง

    นาทีชีวิต! ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำและกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ทีมกู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงตัวผู้ประสบเหตุ เนื่องจากระดับน้ำสูงและกระแสน้ำที่แรง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความชำนาญ ทีมงานก็สามารถนำเรือเข้าไปถึงตัวหญิงสาวได้อย่างปลอดภัย

    เสียงปรบมือดังกึกก้อง เมื่อหญิงสาวถูกนำขึ้นมาจากน้ำอย่างปลอดภัย แม้จะมีอาการหนาวสั่นและบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก

    เปิดเผยค่าตัว ‘อิงฟ้า วราหะ’ ดาราลูกรัก ‘ณวัฒน์’ ทำไมถึงสู้ ‘กามิน’ ไม่ได้

    เปิดเผยค่าตัว ‘อิงฟ้า วราหะ’ ดาราลูกรัก ‘ณวัฒน์’ ทำไมถึงสู้ ‘กามิน’ ไม่ได้

    เปิดเผยค่าตัว ‘อิงฟ้า วราหะ’ ดาราลูกรัก ‘ณวัฒน์’ ทำไมถึงสู้ ‘กามิน’ ไม่ได้

    “อิงฟ้า วราหะ” หรือที่แฟนคลับรู้จักกันดีในฐานะลูกรักของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงไทย ด้วยความสามารถและเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา ทำให้เธอได้รับโอกาสในงานต่าง ๆ มากมาย แต่เรื่องของค่าตัวนั้นก็ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับดาราดาวรุ่งอย่าง “กามิน” ที่ดูเหมือนว่าค่าตัวของเขาจะยังสูงกว่าอิงฟ้าอยู่มาก

    ค่าตัวของ “อิงฟ้า” และ “กามิน”

    อิงฟ้า วราหะ ซึ่งเป็นลูกรักของ ณวัฒน์ ได้รับการสนับสนุนและดันสู่วงการบันเทิงจากเวทีประกวดนางงาม ก่อนที่จะเข้ามาในสายบันเทิงอย่างเต็มตัว งานโฆษณา งานพรีเซนเตอร์ และอีเวนต์ต่าง ๆ ของเธอมีเข้ามาไม่ขาดสาย แม้จะยังไม่ได้มีรายงานค่าตัวที่แน่ชัด แต่แหล่งข่าวหลายแห่งระบุว่า อิงฟ้ายังไม่สามารถสู้กับค่าตัวของ “กามิน” ได้

    ความแตกต่างของการเติบโตในวงการ

    แม้ว่าอิงฟ้าจะมีผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีฐานแฟนคลับที่สนับสนุนเธออยู่เสมอ แต่ “กามิน” ที่มีผลงานทั้งในวงการละครและภาพยนตร์ นั้นได้รับโอกาสในโปรเจกต์ใหญ่ ๆ มากมาย ซึ่งทำให้ค่าตัวของเขาสูงกว่าอิงฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ

    อย่างไรก็ตาม อิงฟ้ายังคงเดินหน้าทำงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มที่ และมีแนวโน้มว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าทางตลาดได้อีกมากในอนาคต

    ค่าตัวไม่ใช่ทุกอย่างในวงการบันเทิง

    แม้ว่าการพูดถึงค่าตัวจะเป็นเรื่องที่คนในวงการและแฟน ๆ ให้ความสนใจ แต่ในท้ายที่สุด การได้รับการยอมรับจากแฟนคลับและความสามารถที่แสดงออกมาในผลงานต่างหากที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในระยะยาวของดารานักแสดง


    บทความนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและการแข่งขันในวงการบันเทิงของดารารุ่นใหม่อย่าง “อิงฟ้า” และ “กามิน” ซึ่งมีทั้งความแตกต่างและความเหมือนในเส้นทางของพวกเขา และย้ำเตือนให้เรารู้ว่า ค่าตัวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญคือความสามารถและการสนับสนุนจากแฟนคลับ

    หลายคนเข้าใจผิด! นักวิทย์ชี้ชัด เมื่อพายุมา ควรปิดหรือเปิดหน้าต่าง

    หลายคนเข้าใจผิด! นักวิทย์ชี้ชัด เมื่อพายุมา ควรปิดหรือเปิดหน้าต่าง


    เมื่อเกิดพายุหรือพายุลมแรง หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าควรปิดหรือเปิดหน้าต่างเพื่อให้บ้านหรืออาคารปลอดภัยที่สุด ความเชื่อดั้งเดิมของคนจำนวนมากมักแนะนำให้เปิดหน้าต่างบางส่วนเพื่อให้ลมผ่านและลดแรงกดดันของอากาศในบ้าน แต่ความจริงทางวิทยาศาสตร์กลับแตกต่างออกไป

    คำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์

    จากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ การเปิดหน้าต่างเมื่อเกิดพายุลมแรงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะการเปิดหน้าต่างจะทำให้ลมภายนอกพัดเข้ามาภายในบ้านหรืออาคาร ซึ่งสามารถสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นภายในตัวอาคาร ทำให้โครงสร้างบ้านอ่อนแอลงและมีโอกาสเกิดความเสียหายได้มากขึ้น เช่น หลังคาอาจถูกพัดหลุด หรือแม้กระทั่งผนังอาคารก็อาจเกิดการพังทลาย

    ควรทำอย่างไรในขณะเกิดพายุ?

    เมื่อมีสัญญาณว่าพายุลมแรงกำลังจะเข้ามา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

    1. ปิดหน้าต่างและประตูให้สนิท เพื่อป้องกันลมแรงที่อาจพัดเข้ามาภายในบ้าน
    2. เสริมความแข็งแรงของหน้าต่าง ด้วยการใช้แผ่นไม้อัดหรือวัสดุแข็งที่สามารถกันลมได้
    3. เลี่ยงการอยู่ใกล้หน้าต่างหรือประตู เพราะอาจมีเศษวัสดุหรือวัตถุต่าง ๆ ถูกพายุพัดมากระทบ
    4. เก็บของนอกบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์สนามหรือกระถางต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกลมพัดมาทำลายบ้านหรือทรัพย์สิน

    ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

    ความเข้าใจผิดเรื่องการเปิดหน้าต่างในพายุเป็นหนึ่งในความเชื่อเก่าแก่ที่ถูกแพร่หลายมานาน แต่ด้วยการศึกษาล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าการปิดหน้าต่างทั้งหมดจะช่วยปกป้องโครงสร้างอาคารได้ดีกว่า นอกจากนี้ การเตรียมบ้านให้แข็งแรงและทนทานต่อแรงลมยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทำอย่างสม่ำเสมอ

    สรุป

    ในช่วงที่เกิดพายุลมแรง คำตอบที่ถูกต้องจากนักวิทยาศาสตร์คือ ควรปิดหน้าต่างและประตูให้แน่นหนา อย่าเปิดหน้าต่างตามความเชื่อเก่า ๆ ที่อาจทำให้บ้านของคุณเสียหายได้

    บุ๋ม ปนัดดา ลุยเชียงราย ช่วยน้ำท่วมแม่สาย น้ำยังท่วมหนักกว่าที่คิด

    บุ๋ม ปนัดดา ลุยเชียงราย ช่วยน้ำท่วมแม่สาย น้ำยังท่วมหนักกว่าที่คิด

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ได้บินด่วนลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยพบว่าสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้มีความรุนแรงกว่าที่คาดคิด ส่งผลให้ชาวบ้านหลายคนประสบปัญหาในการเดินทาง และกู้ภัยไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ทันที เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูงและกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก

    บุ๋ม ปนัดดา ไม่ได้เพียงแค่เดินทางมาสำรวจสถานการณ์ แต่ยังลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือและมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้เธอยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังไม่มีทีมกู้ภัยเข้าไปได้

    น้ำท่วมแม่สายครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในวงกว้าง หลายครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ถนนหลายสายถูกตัดขาด และบ้านเรือนหลายหลังถูกน้ำท่วมถึงชั้นสอง การช่วยเหลือในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน

    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการเพิ่มเติมเพื่อนำสิ่งของและทีมกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน โดยมีแผนการจัดส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ประสบภัย

    ทีรามิสุ

    ทีรามิสุ: ขนมหวานอิตาเลียนสุดคลาสสิก ที่ใครๆ ก็หลงรัก

    ทีรามิสุ (Tiramisu) เป็นขนมหวานยอดนิยมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม หวานมันกำลังดี และเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้น ทำให้ทีรามิสุกลายเป็นเมนูโปรดของคนรักขนมหวานมากมาย

    ที่มาของชื่อ “ทีรามิสุ”

    ชื่อ “ทีรามิสุ” ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า “พาฉันขึ้นไปสู่สวรรค์” ซึ่งสื่อถึงความรู้สึกที่ได้รับหลังจากได้ลิ้มลองรสชาติของขนมหวานชนิดนี้ โดยชื่อนี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจและมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป

    ส่วนผสมหลักของทีรามิสุ

    • เลดี้ฟิงเกอร์: เป็นขนมปังชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างยาวและบาง จุ่มลงในกาแฟเอสเปรสโซเพื่อเพิ่มรสชาติ
    • มาสคาร์โปเน: ชีสครีมชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากแคว้นลอมบาร์ดีของอิตาลี มีลักษณะนุ่มเนียนและมีรสชาติหวานมัน
    • ไข่แดง: ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและความมันให้กับครีม
    • น้ำตาล: ให้ความหวาน
    • กาแฟเอสเปรสโซ: เพิ่มรสชาติขมและกลิ่นหอม
    • ผงโกโก้: โรยด้านบนเพื่อเพิ่มความสวยงามและรสชาติ

    วิธีทำทีรามิสุแบบง่ายๆ

    1. เตรียมเลดี้ฟิงเกอร์: จุ่มเลดี้ฟิงเกอร์ลงในกาแฟเอสเปรสโซที่ผสมกับเหล้าบามา (ถ้ามี) เพียงเล็กน้อย แล้วเรียงลงในภาชนะ
    2. ทำครีม: ตีไข่แดงกับน้ำตาลจนขึ้นฟู จากนั้นจึงผสมมาสคาร์โปเนลงไป คนให้เข้ากัน
    3. ประกอบ: เทครีมที่ได้ลงบนชั้นเลดี้ฟิงเกอร์ สลับชั้นกันไปเรื่อยๆ จนหมด
    4. ตกแต่ง: โรยผงโกโก้ด้านบนให้ทั่ว
    5. แช่เย็น: นำเข้าตู้เย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ

    ความหลากหลายของทีรามิสุ

    ปัจจุบันมีการดัดแปลงสูตรทีรามิสุให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น เพิ่มผลไม้สด หรือเปลี่ยนรสชาติของกาแฟ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะดัดแปลงอย่างไร ทีรามิซุก็นับว่าเป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั่วโลก

    เคล็ดลับในการทำทีรามิสุให้อร่อย

    • เลือกวัตถุดิบคุณภาพดี: โดยเฉพาะมาสคาร์โปเน ควรเลือกที่มีความสดใหม่และมีคุณภาพดี
    • ควบคุมปริมาณกาแฟ: ไม่ควรจุ่มเลดี้ฟิงเกอร์ในกาแฟมากเกินไป เพราะจะทำให้รสชาติขมเกินไป
    • แช่เย็นให้พอดี: การแช่เย็นจะช่วยให้รสชาติของทีรามิสุเข้ากันได้ดีขึ้น
    • ตกแต่งให้สวยงาม: การโรยผงโกโก้หรือตกแต่งด้วยผลไม้สดจะช่วยเพิ่มความน่าทาน

    ทีรามิสุไม่เพียงแต่เป็นขนมหวานที่อร่อย แต่ยังเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก หากมีโอกาส ลองทำทีรามิสุทานเองที่บ้านดูนะคะ รับรองว่าจะติดใจ

    หมาถูกงูกัด

    หมาถูกงูกัด ต้องทำอย่างไร? สิ่งที่เจ้าของต้องรู้และปฏิบัติ

    เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอสำหรับน้องหมา คือการถูกงูกัด ไม่ว่าจะเป็นงูพิษหรือไม่มีพิษ การที่หมาถูกงูกัดก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของน้องหมาได้อย่างรุนแรง ดังนั้น เจ้าของสุนัขจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์นี้ เพื่อช่วยให้น้องหมาได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

    สัญญาณบ่งบอกว่าน้องหมาถูกงูกัด

    • รอยเขี้ยว: มองหารอยเขี้ยวสองรูที่บริเวณที่ถูกกัด
    • ปวด: น้องหมาจะแสดงอาการเจ็บปวด ร้องคราง หรือไม่ยอมให้สัมผัสบริเวณที่ถูกกัด
    • บวม: บริเวณที่ถูกกัดอาจบวมแดง
    • อาการอื่นๆ: อาจมีอาการอื่นๆ ตามมา เช่น เดินเซ เดินกะเผลก คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก ชัก เป็นต้น

    สิ่งที่ควรทำเมื่อน้องหมาถูกงูกัด

    1. รักษาความสงบ: อย่าตื่นตระหนก รีบพาน้องหมาไปในที่ร่มและปลอดภัย
    2. จำลักษณะงู: หากสามารถจำลักษณะของงูได้ ให้ถ่ายรูปหรือจดบันทึกไว้ เพื่อนำข้อมูลไปบอกสัตวแพทย์
    3. ปฐมพยาบาลเบื้องต้น:
      • ล้างแผลเบาๆ ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ
      • ห้ามขันชะเนาะ หรือใช้ปากดูดพิษ
      • ห้ามใช้มีดกรีดแผล หรือทายาสมุนไพร
      • ห้ามให้ยาใดๆ นอกเหนือจากคำแนะนำของสัตวแพทย์
    4. รีบพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์: นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด การพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความรุนแรงของอาการ

    สิ่งที่สัตวแพทย์จะทำ

    • ตรวจร่างกาย: สัตวแพทย์จะตรวจร่างกายน้องหมาอย่างละเอียด เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการ
    • ให้เซรุ่มต้านพิษ: หากจำเป็น สัตวแพทย์จะให้เซรุ่มต้านพิษงู เพื่อช่วยลดผลกระทบของพิษ
    • รักษาอาการอื่นๆ: สัตวแพทย์จะให้การรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น เช่น ยาลดปวด ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ
    • ดูแลอย่างใกล้ชิด: น้องหมาอาจต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ เพื่อให้สัตวแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

    การป้องกันน้องหมาจากการถูกงูกัด

    • หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีงูชุกชุม: เช่น ป่ารกชัฏ ทุ่งหญ้าสูง
    • ตรวจสอบสวนและบริเวณบ้าน: กำจัดแหล่งที่อยู่อาศัยของงู เช่น กองไม้ กองหญ้า
    • สวมรองเท้าให้กับน้องหมา: เมื่อพาน้องหมาไปเดินเล่นในที่โล่งแจ้ง
    • ฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง: เพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาวิ่งเข้าไปในที่อันตราย

    การถูกงูกัดเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องรีบปฏิบัติอย่างถูกต้อง การพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด คือสิ่งสำคัญที่สุดในการช่วยชีวิตน้องหมา

    ค่า BMI-คำนวณ BMI

    ค่า BMI วัดสุขภาพของคุณได้ง่ายๆ

    BMI คืออะไร?

    BMI ย่อมาจาก Body Mass Index เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความสมดุลระหว่างน้ำหนักและส่วนสูงของร่างกาย โดยใช้เป็นดัชนีชี้วัดว่าเรามีน้ำหนักเกินหรือขาดน้ำหนักหรือไม่ ค่า BMI สามารถคำนวณได้ง่ายๆ โดยใช้สูตร:

    BMI = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / (ส่วนสูง (เมตร))²

    ค่า BMI ที่เป็นปกติ:

    • 18.5 – 24.9: น้ำหนักปกติ
    • 25.0 – 29.9: น้ำหนักเกิน
    • 30.0 ขึ้นไป: อ้วน

    ข้อควรระวัง:

    • ค่า BMI เป็นเพียงตัวเลขหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสมดุลของน้ำหนักและส่วนสูงเท่านั้น ไม่ได้บ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมของร่างกาย
    • ผู้ที่มีกล้ามเนื้อมักจะมีค่า BMI สูงกว่าปกติ แม้จะมีร่างกายแข็งแรง
    • ผู้ที่มีไขมันน้อยมักจะมีค่า BMI ต่ำกว่าปกติ แม้จะมีสุขภาพดี

    วิธีการคำนวณค่า BMI:

    คุณสามารถคำนวณค่า BMI ได้ง่ายๆ โดยใช้เครื่องคำนวณ BMI ออนไลน์ หรือใช้สูตรที่ระบุไว้ข้างต้น

    การปรับปรุงค่า BMI:

    หากคุณพบว่าค่า BMI ของคุณไม่เป็นปกติ คุณสามารถปรับปรุงได้โดยการ:

    • ปรับเปลี่ยนอาหาร: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
    • ออกกำลังกาย: ทำกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ
    • ปรึกษาแพทย์: หากคุณมีปัญหาสุขภาพหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม

    สรุป

    ค่า BMI เป็นเพียงตัวเลขหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสมดุลของน้ำหนักและส่วนสูงเท่านั้น ไม่ได้บ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมของร่างกาย หากคุณต้องการประเมินสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

    วันธงชัยในเดือนกันยายน 2567 มาถึงแล้ว! มาร่วมเช็กฤกษ์ดีและวันมงคล

    วันธงชัยในเดือนกันยายน 2567 มาถึงแล้ว! มาร่วมเช็กฤกษ์ดีและวันมงคล


    สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ และกำลังมองหาฤกษ์มงคลในเดือนกันยายน 2567 มาดูกันว่าวันธงชัยในเดือนนี้มีวันไหนบ้าง วันธงชัยถือเป็นวันที่ดี เหมาะแก่การทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ ออกรถ หรืองานมงคลอื่น ๆ

    วันธงชัยในเดือนกันยายน 2567 มีดังนี้:

    • วันอังคารที่ 3 กันยายน 2567 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    • วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    • วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    • วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 แรม 7 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    สารส้มทารักแร้

    สารส้มทารักแร้: ตัวช่วยดับกลิ่นกายจากธรรมชาติ

    สารส้มเป็นแร่ธาตุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการระงับกลิ่นกายได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เองจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารส้มทารักแร้ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นตัว

    สารส้มคืออะไร?

    สารส้ม หรือที่เรียกว่า พอแทสเซียมอะลัม (Potassium Alum) เป็นเกลือผลึกใสไม่มีสี มีคุณสมบัติในการระงับกลิ่นได้ดีเยี่ยม เนื่องจากมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัว นอกจากนี้ สารส้มยังช่วยลดการหลั่งเหงือได้ในระดับหนึ่ง ทำให้รักแร้แห้งสบายตลอดวัน

    สรรพคุณของสารส้มทารักแร้

    • ระงับกลิ่นกาย: สารส้มช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในบริเวณรักแร้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นตัว ทำให้รักแร้หอมสดชื่นตลอดวัน
    • ลดการระคายเคือง: สารส้มมีคุณสมบัติในการสมานแผลและลดการระคายเคืองของผิวหนัง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
    • ช่วยให้รักแร้ขาวขึ้น: การใช้สารส้มทารักแร้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวใต้วงแร้ดูกระจ่างใสขึ้น
    • ราคาประหยัด: สารส้มมีราคาถูกและหาซื้อง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา ร้านขายของชำ หรือร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

    วิธีใช้สารส้มทารักแร้

    • ทำความสะอาดผิว: ก่อนใช้สารส้มควรอาบน้ำทำความสะอาดผิวให้สะอาด
    • เช็ดให้แห้ง: ตบผิวใต้วงแร้ให้แห้งสนิทก่อนทาสารส้ม
    • ทาสารส้ม: ใช้สารส้มทาลงบนผิวใต้วงแร้ให้ทั่ว
    • ทาซ้ำได้ตามต้องการ: สามารถทาซ้ำได้ตลอดวันหากรู้สึกว่ามีเหงื่อออกมาก

    สารส้มเหมาะสำหรับใคร?

    สารส้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย

    ข้อควรระวังในการใช้สารส้ม

    • การแพ้: แม้ว่าสารส้มจะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ แต่บางคนก็อาจมีอาการแพ้ได้ ควรทดลองใช้ในปริมาณน้อยก่อน และหากมีอาการระคายเคืองควรหยุดใช้ทันที
    • ผิวแห้ง: สารส้มอาจทำให้ผิวแห้งได้ ควรบำรุงผิวใต้วงแร้ด้วยโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวเป็นประจำ
    • การเลือกซื้อ: ควรเลือกซื้อสารส้มจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

    สรุป

    สารส้มทารักแร้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติในการระงับกลิ่น ลดการระคายเคือง และช่วยให้ผิวขาวขึ้น ทำให้สารส้มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้สารส้มที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง และหากมีอาการแพ้ควรหยุดใช้ทันที


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า