ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    Category Archive : ข่าว

    คุณแม่คิมแซรน

    คุณแม่ของ “คิมแซรน” วัย 48 ปี ออร่าความงามเหนือวัย จนชาวเน็ตต้องทึ่ง!

    คุณแม่ของ คิมแซรน กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ หลังภาพของเธอถูกเผยแพร่ ทำให้ชาวเน็ตต้องตกตะลึงในความอ่อนเยาว์ ด้วยผิวพรรณเรียบเนียน ดูสดใสราวกับเป็นพี่สาวของลูกสาวนักแสดงเด็กชื่อดัง

    แม้ข้อมูลส่วนตัวของเธอจะยังไม่ถูกเปิดเผยมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนสนใจไม่ใช่แค่ความงามเหนือวัย แต่รวมถึง เส้นทางชีวิต ที่เต็มไปด้วยความเข้มแข็ง คุณแม่ของคิมแซรนเคยเป็นนักศึกษาจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยยอนเซ แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อเธอต้องกลายเป็น คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หลังการหย่าร้าง ชีวิตเต็มไปด้วยอุปสรรค เธอต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คนเพียงลำพัง และเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากจนแทบหมดหวัง

    อย่างไรก็ตาม เธอไม่ยอมแพ้และเลือกผลักดัน คิมแซรน ให้เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ความสามารถของลูกสาวทำให้ครอบครัวสามารถพลิกชีวิตจากความลำบาก จนมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น

    เรื่องราวของคุณแม่ของคิมแซรนเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนเห็นว่า ความงามที่แท้จริง ไม่ได้มาจากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากหัวใจที่แข็งแกร่ง และความมุ่งมั่นในการสู้ชีวิต

    ผู้กำกับโจ้

    ย้อนรอยคดี “ผู้กำกับโจ้” จากตำรวจไฮโซสู่จุดจบในเรือนจำ

    เส้นทางจากตำรวจชื่อดังสู่จุดจบในเรือนจำ

    เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุพบศพนักโทษชายผูกคอตายในเรือนจำคลองเปรม กรุงเทพฯ ผู้เสียชีวิตคือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือที่รู้จักกันในนาม ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจเมืองนครสวรรค์ ซึ่งต้องโทษในคดีอื้อฉาว คลุมถุงดำ ทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิต

    เจ้าหน้าที่จะดำเนินการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

    คดีสะเทือนขวัญ: คลุมถุงดำแลกอิสรภาพ

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2564 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวก ถูกกล่าวหาว่าทรมาน นายจิระพงษ์ หรือ “มาวิน” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยใช้ ถุงดำ คลุมศีรษะระหว่างการสอบสวนเพื่อต่อรองเรียกรับสินบน คดีนี้กลายเป็นข่าวใหญ่หลังจากมี คลิปหลักฐาน เผยแพร่สู่สาธารณะ

    เหตุการณ์นี้นำไปสู่การสอบสวนและศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินโทษประหารชีวิต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

    จุดจบของผู้กำกับไฮโซ

    ก่อนเกิดคดี ผู้กำกับโจ้เป็นที่รู้จักในสังคม ไฮโซ เขามีชื่อเสียงในฐานะเจ้าของรถสปอร์ตหรูและเคยมีความสัมพันธ์กับนักแสดงสาว อย่างไรก็ตาม คดีคลุมถุงดำได้เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเขาอย่างสิ้นเชิง นำไปสู่การพิจารณาคดีและโทษจำคุก จนกระทั่งพบว่าเขาเสียชีวิตภายในเรือนจำ

    อัปเดตข่าววันนี้ ข่าวด่วน ได้ที่นี่ ทันทุกสถาณการณ์ เหตุด่วน ไม่ตกเทรนด์ ที่นี่เลย

    หอมได้ไม่ต้องพึ่งโรลออน! 7 ผลไม้ดับกลิ่นตัวธรรมชาติ

    หอมได้ไม่ต้องพึ่งโรลออน! 7 ผลไม้ดับกลิ่นตัวธรรมชาติ

    เผยเคล็ดลับกลิ่นกายหอมสดชื่นยาวนาน ด้วย 7 ผลไม้ดับกลิ่นตัวธรรมชาติ

    เคยไหม? ที่รู้สึกไม่มั่นใจกับกลิ่นกายของตัวเอง แม้จะอาบน้ำและใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแล้วก็ตาม ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจากอาหารที่รับประทาน หรือการสะสมของสารพิษในร่างกาย ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร แล้วหันมาดูแลกลิ่นกายด้วยผลไม้ธรรมชาติ 7 ชนิดนี้ ที่จะช่วยให้คุณมีกลิ่นกายหอมสดชื่นจากภายในสู่ภายนอก

    กลไกการทำงาน: ทำไมผลไม้ช่วยลดกลิ่นตัว?

    กลิ่นตัวเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียและสารพิษในร่างกาย ผลไม้เหล่านี้มีสารอาหารและสารประกอบที่ช่วยในการดับกลิ่นและควบคุมการผลิตเหงื่อ เช่น:

    • วิตามินซี: ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและลดการสะสมของแบคทีเรีย
    • ไฟเบอร์: ช่วยส่งเสริมการขับถ่ายและลดการสะสมของสารพิษในลำไส้
    • สารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยลดการอักเสบและปรับสมดุลของร่างกาย

    7 ผลไม้ดับกลิ่นตัว หอมสดชื่นจากภายใน

    1. มะนาว:
      • อุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดซิตริก ช่วยดีท็อกซ์และกำจัดแบคทีเรียในระบบย่อยอาหาร
      • แนะนำ: ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นทุกเช้า เพื่อกระตุ้นการขับถ่ายและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
    2. ส้ม:
      • มีวิตามินซีสูงและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ลดการสะสมของสารพิษ
      • แนะนำ: ทานส้มสดหรือน้ำส้มคั้นเป็นประจำ เพื่อกลิ่นกายหอมอ่อนๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
    3. สับปะรด:
      • มีเอนไซม์บรอมีเลน ช่วยย่อยโปรตีนและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในร่างกาย
      • แนะนำ: ทานสับปะรดสดหลังมื้ออาหาร เพื่อช่วยย่อยอาหารและลดกลิ่นปาก
    4. แอปเปิล:
      • มีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขับล้างสารพิษในระบบย่อยอาหาร
      • แนะนำ: ทานแอปเปิลวันละ 1 ผล เพื่อควบคุมระบบขับถ่ายและลดกลิ่นตัว
    5. แตงโม:
      • มีน้ำสูง ช่วยขับของเสียออกจากร่างกายและลดการสะสมของสารพิษ
      • แนะนำ: ทานแตงโมเป็นของว่าง เพื่อความสดชื่นและกลิ่นกายหอมอ่อนๆ
    6. กล้วย:
      • กล้วยมีไฟเบอร์และวิตามินบีที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ลดการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีผลต่อการควบคุมกลิ่นตัว
      • แนะนำ: ทานกล้วยเป็นอาหารว่างเพื่อลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
    7. เบอร์รี:
      • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี และไฟเบอร์ที่ช่วยขับล้างสารพิษในระบบย่อยอาหารและทำให้ร่างกายสะอาด
      • แนะนำ: ทานเบอร์รีเป็นประจำจะช่วยลดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ และเพิ่มความสดชื่นให้กลิ่นกายของคุณ

    เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อกลิ่นกายหอมสดชื่น

    • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยขับของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย
    • ทานอาหารที่มีประโยชน์: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศ
    • ดูแลสุขอนามัย: อาบน้ำเป็นประจำ ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และสวมใส่เสื้อผ้าสะอาด
    • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ
    • สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคผลไม้บางชนิด

    ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้คุณมีกลิ่นกายหอมสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ และเพิ่มความมั่นใจในทุกๆ วัน

    ออกกำลังกายแบบไหน ลดน้ำหนักได้เร็วที่สุด? เปรียบเทียบ 10 วิธีที่ได้ผลจริง

    ออกกำลังกายแบบไหน ลดน้ำหนักได้เร็วที่สุด? เปรียบเทียบ 10 วิธีที่ได้ผลจริง


    10 วิธีออกกำลังกายลดน้ำหนัก ที่ช่วยให้หุ่นเฟิร์มเร็วที่สุด

    การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วน แต่คำถามคือ วิธีไหนช่วยให้เห็นผลเร็วที่สุด? หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว เราได้รวบรวม 10 วิธีออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ดีเยี่ยม มาให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองที่สุด

    1. การวิ่ง (Running)

    การวิ่งเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลเร็วในการเผาผลาญแคลอรี เพียงแค่วิ่งต่อเนื่อง 30-45 นาที สามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 300-500 แคลอรี ต่อครั้ง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจและปอด

    2. การกระโดดเชือก (Jump Rope)

    การกระโดดเชือกเป็นคาร์ดิโอที่เข้มข้นสูง สามารถช่วยเผาผลาญไขมันและลดน้ำหนักได้เร็ว การกระโดดเชือกเพียง 30 นาที สามารถเผาผลาญได้มากถึง 400-500 แคลอรี ต่อครั้ง

    3. การปั่นจักรยาน (Cycling)

    การปั่นจักรยานช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน โดยการปั่นด้วยความเร็วปานกลางเป็นเวลา 45 นาที สามารถเผาผลาญได้ถึง 400-600 แคลอรี และสามารถเลือกปั่นได้ทั้งกลางแจ้งหรือในฟิตเนส

    4. การฝึก HIIT (High-Intensity Interval Training)

    HIIT คือการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ดีที่สุด แม้จะจบการออกกำลังกายไปแล้ว ร่างกายยังคงเผาผลาญพลังงานต่อเนื่อง

    5. การยกน้ำหนัก (Weight Lifting)

    การยกน้ำหนักช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แม้ว่าจะเผาผลาญแคลอรีไม่เท่าคาร์ดิโอ แต่กล้ามเนื้อที่มากขึ้นจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ตลอดทั้งวัน

    6. การเดินเร็ว (Brisk Walking)

    เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการออกกำลังกายที่หนักเกินไป การเดินเร็ว 30-60 นาที สามารถเผาผลาญได้ถึง 200-300 แคลอรี และช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ

    7. การว่ายน้ำ (Swimming)

    ว่ายน้ำช่วยเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน การว่ายน้ำ 30 นาที สามารถเผาผลาญได้ถึง 400-500 แคลอรี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท่าว่ายที่ใช้

    8. การปั่นจักรยานที่บ้าน (Stationary Bike)

    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายในบ้าน สามารถปรับระดับความเข้มข้นได้ โดยสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 400-600 แคลอรีต่อชั่วโมง

    9. การออกกำลังกายแบบเต้น (Dancing)

    การเต้น เช่น ซุมบ้า หรือแอโรบิก เป็นวิธีที่สนุกและช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีมาก สามารถเผาผลาญแคลอรีได้ใกล้เคียงกับการออกกำลังกายคาร์ดิโออื่น ๆ

    10. การฝึกโยคะ (Yoga)

    แม้ว่าจะไม่ได้เผาผลาญแคลอรีสูงเหมือนคาร์ดิโอ แต่โยคะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น คลายความเครียด และช่วยควบคุมน้ำหนักในระยะยาว

    สรุป

    หากคุณต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การฝึก HIIT, การวิ่ง หรือการกระโดดเชือก คือวิธีที่ดีที่สุด แต่ถ้าชอบออกกำลังกายแบบชิล ๆ การเดินเร็วหรือโยคะ ก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งนี้ การเลือกออกกำลังกายให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความฟิตของร่างกายจะช่วยให้เห็นผลได้ดีที่สุด 🎯💪

    น้องมายูอายุ 10 ขวบแล้ว! เมย์ เฟื่องอารมย์ พาเปลี่ยนลุคใหม่ แฟนคลับชมรัวๆ


    ทรงผมลูกดารา
     น้องมายูโตเป็นสาวขึ้นทุกวัน! ลูกสาวสุดที่รักของ เมย์ เฟื่องอารมย์ และ หนุ่ม กรรชัย ตอนนี้อายุครบ 10 ขวบเต็มแล้ว ล่าสุด เมย์ เฟื่องอารมย์ ได้เผยคลิปขณะพา น้องมายู ไปตัดผมปรับลุคใหม่ พร้อมแคปชั่นว่า “มายูอยากตัดผมเปลี่ยนลุคค่ะ #mayukamnerdploy”

    งานนี้แฟนๆ แห่เข้ามาคอมเมนต์กันรัวๆ เพราะ น้องมายู ดูสวยออร่าสุดๆ จนหลายคนอดแซวไม่ได้ว่า พ่อหนุ่มคงต้องเตรียมไว้หนวดเพิ่มความเข้มซะแล้ว!

    • “แจ้งพ่อหนุ่มด่วน! เตรียมไว้หนวดแทนผมยาวเลยค่า”
    • “น่ารักมากกกก”
    • “ยิ้มเหมือนพ่อ แต่สวยเหมือนแม่เป๊ะ!”
    • “พี่หนุ่มผมยาวชัดๆ”
    • “โอ๊ยย น้องมายูสวยมากกก”
    เมนชิคอฟ

    แตกหักกลางวง! เมนชิคอฟ เปิดศึกเดือดกับ ONE เผยเหตุผลช็อกวงการ

    กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงในวงการกีฬาต่อสู้ไปแล้ว สำหรับกรณีของ ดีมิทรี เมนชิคอฟ นักมวยชาวรัสเซีย ที่ประกาศแยกทางกับ ONE Championship อย่างเป็นทางการ หลังจากสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับองค์กรมาโดยตลอด ล่าสุด นักสู้จอมโหดได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับแฟนกีฬาทั่วโลก

    เมนชิคอฟ เผยว่า ตนรู้สึกไม่พอใจกับการปฏิบัติของ ONE ที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องของสัญญาและโบนัสที่ได้รับ ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลงานที่ทำได้ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการเซ็นเซอร์คลิปการแข่งขันและการปฏิเสธการให้สัมภาษณ์หลังการชก ซึ่งบ่งชี้ว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นภายในองค์กร

    “ผมชนะน็อกมาหลายไฟต์ แต่กลับไม่ได้รับโบนัสเลยแม้แต่ครั้งเดียว มันไม่ยุติธรรมเลย” เมนชิคอฟ กล่าวอย่างเปิดอก “ผมรู้สึกว่าถูกปฏิบัติไม่ดี และไม่ต้องการที่จะทำงานกับองค์กรที่ไม่ให้ความสำคัญกับนักกีฬา”

    การเปิดเผยครั้งนี้ของ เมนชิคอฟ ได้สร้างความไม่พอใจให้กับแฟน ๆ ของ ONE เป็นอย่างมาก และหลายคนต่างออกมาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำขององค์กร ขณะเดียวกัน ก็มีหลายคนที่ออกมาให้กำลังใจ เมนชิคอฟ และเชื่อว่าเขาจะประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพต่อไป

    7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเทศกาลชีซีเจี๋ย วันวาเลนไทน์จีนที่เต็มไปด้วยตำนาน

    7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเทศกาลชีซีเจี๋ย วันวาเลนไทน์จีนที่เต็มไปด้วยตำนาน


    เทศกาลชีซีเจี๋ย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วันวาเลนไทน์จีน” เป็นเทศกาลสำคัญของชาวจีนที่เฉลิมฉลองความรักและความโรแมนติก ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งมักอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคมของปฏิทินสากล

    ตำนานแห่งรัก หนิวหลางและจือหนี่ว์

    เทศกาลชีซีเจี๋ยมีที่มาจากตำนานความรักระหว่าง หนิวหลาง (หนุ่มเลี้ยงวัว) และ จือหนี่ว์ (เทพธิดาทอผ้า) ซึ่งเป็นเรื่องเล่าที่แฝงไปด้วยความโรแมนติกและความเศร้าโศก

    ตามตำนานกล่าวว่า จือหนี่ว์เป็นเทพธิดาผู้มีฝีมือในการทอผ้า ถูกส่งลงมายังโลกมนุษย์ และได้พบรักกับหนิวหลาง ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขและมีบุตรด้วยกันสองคน แต่เมื่อความรักของทั้งคู่เป็นที่รับรู้ของเหล่าเทพบนสวรรค์ จือหนี่ว์ถูกเรียกตัวกลับขึ้นไป และถูกแยกจากหนิวหลางโดยมี แม่น้ำเงิน หรือ ทางช้างเผือก คั่นกลาง ทำให้ทั้งสองไม่สามารถพบกันได้

    อย่างไรก็ตาม มีตำนานเล่าว่าในคืนวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี เหล่านกกาจะบินมารวมตัวกันเป็นสะพาน ให้ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง นี่จึงเป็นที่มาของเทศกาลชีซีเจี๋ย ซึ่งกลายเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองความรักในวัฒนธรรมจีน

    เทศกาลชีซีเจี๋ยในปัจจุบัน

    ปัจจุบัน เทศกาลชีซีเจี๋ยได้รับการขนานนามว่าเป็น วันวาเลนไทน์ของจีน คู่รักมักใช้โอกาสนี้ในการแสดงความรัก มอบของขวัญ และใช้เวลาร่วมกัน เช่นเดียวกับวันวาเลนไทน์ในประเทศตะวันตก

    นอกจากนี้ เทศกาลชีซียังมี ประเพณีดั้งเดิม ที่ชาวจีนปฏิบัติสืบต่อกันมา ได้แก่
    ✔️ การขอพร – ผู้คนมักขอพรให้พบรักแท้ หรือให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่มั่นคงและยืนยาว
    ✔️ การไหว้เทพเจ้าแห่งความรัก – ชาวจีนบางส่วนจะทำพิธีไหว้เทพเจ้าเพื่อเสริมดวงความรักและชีวิตคู่
    ✔️ การทำอาหารพิเศษ – มีการทำขนมหวาน เช่น ขนมแป้งข้าวเหนียว หรือขนมรูปหัวใจเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรัก
    ✔️ การออกเดท – คู่รักนิยมไปออกเดทในวันนี้ เช่น การทานอาหารค่ำใต้แสงเทียน หรือเดินเล่นในบรรยากาศโรแมนติก
    ✔️ การชมดาว – ในคืนเทศกาลชีซี ชาวจีนเชื่อกันว่าหากมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จะสามารถเห็นดาวที่เป็นตัวแทนของหนิวหลางและจือหนี่ว์อยู่ตรงข้ามกัน

    เทศกาลแห่งความรักที่น่าจดจำ

    เทศกาลชีซีเจี๋ยเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงตำนานความรักที่ฝ่าฟันอุปสรรคและได้รับการเล่าขานมานาน คู่รักหลายคู่ถือโอกาสนี้ในการเฉลิมฉลองและขอพรให้ความรักของตนมั่นคง หากคุณกำลังมองหาวันพิเศษเพื่อแสดงความรัก เทศกาลชีซีก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าประทับใจ! 💖

    เส้นทางวิชาการของ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต จากนิเทศศาสตร์สู่กรรมการ กสทช.

    เส้นทางวิชาการของ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต จากนิเทศศาสตร์สู่กรรมการ กสทช.


    ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต
     เป็นบุคคลสำคัญในแวดวงสื่อสารและการกำกับดูแลสื่อของประเทศไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการใน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชน ทั้งในด้านการกระจายเสียงและโทรคมนาคมของประเทศ

    ประวัติส่วนตัว

    ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2510 เป็นบุตรสาวของ ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีระ รามสูต และ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.พันธุ์ทิพย์ รามสูต ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการวิชาการ

    ประวัติการศึกษา

    • อักษรศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    • Master of Arts (Communication) University of Hawaii at Manoa, สหรัฐอเมริกา


    ประสบการณ์ทางวิชาการและการทำงาน

    • ศาสตราจารย์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    • Reporter-rewriter หนังสือพิมพ์ The Nation (พ.ศ. 2532 – 2533)
    • อาจารย์ประจำภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ. 2535 – ปัจจุบัน)
    • รองอธิการบดีด้านการสื่อสารบริการสังคมและพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ. 2559 – 2563)

    ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร การวิจัย และการกำกับดูแลสื่อ ศ.ดร.พิรงรอง ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ

    บทบาทในแวดวงวิชาการ

    ก่อนเข้ารับตำแหน่งใน กสทช. ศ.ดร.พิรงรอง เป็นอาจารย์และนักวิจัยที่มีบทบาทสำคัญใน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ

    • การสื่อสารมวลชน
    • การสื่อสารเพื่อการพัฒนา
    • การใช้สื่อใหม่
    • ผลกระทบของเทคโนโลยีสื่อสารที่มีต่อสังคมไทย

    นอกจากนี้ เธอยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายสื่อในระดับประเทศและนานาชาติ

    เผยเลขเด็ดย่าเปิ้ล สำหรับงวด 1/2/68 ชาวเน็ตแห่ตามทันที

    เผยเลขเด็ดย่าเปิ้ล สำหรับงวด 1/2/68 ชาวเน็ตแห่ตามทันที


    สมกับเป็นคุณแม่ของ แจ็ค แฟนฉัน จริงๆ สำหรับ คุณย่าเปิ้ล คุณย่าอารมณ์ดีของ น้องคากิ ที่มักจะมีคอนเทนต์น่ารักสดใสมาให้ชมกันผ่านโซเชียลอยู่เสมอ โดยเฉพาะใน TikTok อย่างคลิปล่าสุด

    หลังจากที่ ย่าเปิ้ล โพสต์คลิปลงไป ชาวเน็ตที่เฝ้ารอเลขเด็ดจากคุณย่าเหมือนทุกงวดก็รีบเข้ามาคอมเมนต์ถามทันทีว่า “ซื้อเลขอะไรคะคุณย่า 1/2/68”

    งานนี้ ย่าเปิ้ล ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตอบกลับด้วยเลขเด็ดสองตัว “59” ทำเอาคอหวยถูกอกถูกใจ งวดนี้ได้แนวทางจากคุณย่าแล้ว! 

    ปอกมะม่วงสุกยังไงให้เนื้อสวย? เคล็ดลับง่ายๆ ที่หลายคนไม่เคยรู้

    ปอกมะม่วงสุกยังไงให้เนื้อสวย? เคล็ดลับง่ายๆ ที่หลายคนไม่เคยรู้


    ช่วงนี้มะม่วงออกสู่ตลาดมากมาย ทั้งมะม่วงสุกและมะม่วงดิบ สำหรับคนที่ชื่นชอบการทานมะม่วง คงอยากรู้วิธีปอกมะม่วงให้เนื้อสีเหลืองสวย ไม่ดำคล้ำ ดูน่ารับประทาน โดยเฉพาะการปอกมะม่วงสุก ซึ่งมีเนื้ออ่อนและช้ำง่าย เรามีเทคนิคพิเศษมาฝาก

    วิธีปอกมะม่วงสุกให้เนื้อสวย ไม่ดำ

    ✅ ล้างมะม่วงให้สะอาด เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ผิว
    ✅ ใส่ถุงมือก่อนปอก ป้องกันคราบมือทำให้เนื้อมะม่วงเปลี่ยนสี
    ✅ ใช้มีดคมกริบ ลดการกดทับและทำให้เนื้อเรียบเนียน
    ✅ เริ่มปอกจากขั้วมะม่วง ค่อยๆ ลอกเปลือกลงมาตามแนวผล
    ✅ ปอกเปลือกบางๆ เพื่อให้เนื้อมะม่วงสัมผัสอากาศน้อยลง ลดการเปลี่ยนสี
    ✅ ใช้เปลือกมะม่วงที่ปอกแล้วคลุมเนื้อไว้ ช่วยป้องกันการสัมผัสอากาศโดยตรง
    ✅ ปอกอีกด้านด้วยวิธีเดียวกัน จากนั้นหั่นชิ้นตามต้องการ
    ✅ แช่เนื้อมะม่วงในน้ำสะอาดผสมเกลือเล็กน้อย (เกลือ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ถ้วย) เพื่อลดการเปลี่ยนสี
    ✅ หั่นใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

    เทคนิคพิเศษ

    🔸 ใช้มีดที่คมและสะอาด เพื่อลดเสี้ยนและความช้ำของเนื้อ
    🔸 แช่มะม่วงในน้ำเกลือสักครู่ จะช่วยให้เนื้อคงสีสวยนานขึ้น
    🔸 หลีกเลี่ยงการสัมผัสเนื้อมะม่วงโดยตรง เพราะเอนไซม์จากมืออาจทำให้สีเปลี่ยนเร็วขึ้น

    เพียงเท่านี้ ก็สามารถเพลิดเพลินกับมะม่วงสุกสีเหลืองทอง หอมหวาน น่ารับประทานได้แล้ว!


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า