เปิดประวัติ หลวงปู่อำคา ถาวโร พระเกจิผู้ทรงเมตตาแห่งวิเชียรบุรี
เปิดประวัติ หลวงปู่อำคา ถาวโร
ชีวประวัติของพระครูอดุลพัชราภรณ์
พระครูอดุลพัชราภรณ์ หรือ หลวงปู่อำคา ถาวโร เดิมชื่อ อำคา หอมมาลา โยมบิดาชื่อ นายบาง โยมมารดาชื่อ นางไฝ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ตรงกับวันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ณ บ้านเลขที่ 97 หมู่ 8 ตำบลหนองพลวง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
ท่านเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 ณ วัดหันห้วยทราย ตำบลหันห้วยทราย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมี พระครูวิโรจนคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า “ถาวโร”
การศึกษาและเส้นทางธรรม
หลังจากอุปสมบท หลวงปู่อำคาได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น จนสอบไล่ได้นักธรรมชั้น ตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักศาสนศึกษาวัดสวัสดี จังหวัดขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2494
ภายหลังการศึกษา ท่านได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิด และในช่วงเวลานั้น วัดหนองค่าย ตำบลหนองค่าย อำเภอประทาย ไม่มีพระจำพรรษา ชาวบ้านจึงได้อาราธนาให้หลวงปู่เข้าจำพรรษา พร้อมกับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าคณะตำบล เขต 2 อำเภอประทาย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2502 หลวงปู่อำคาได้ออกธุดงค์ผ่านดงพญาเย็น มายัง อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ และจำพรรษาที่ วัดหนองสองห้อง (ปัจจุบันคือ วัดประชานิมิต) ซึ่งเป็นที่พำนักของท่านจนถึงปัจจุบัน
ตำแหน่งสำคัญทางคณะสงฆ์
- พ.ศ. 2507 : ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะตำบลท่าโรง อำเภอวิเชียรบุรี
- พ.ศ. 2518 : ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดประชานิมิต และได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า “หลวงพ่อใหญ่”
- พ.ศ. 2518 : ได้รับตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอวิเชียรบุรี
- พ.ศ. 2550 : ได้รับแต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอวิเชียรบุรี
- พ.ศ. 2564 : ได้รับแต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์
หลวงปู่อำคา ถาวโร กับพุทธคุณวัตถุมงคล
หลวงปู่อำคาเป็นพระที่ชาวอำเภอวิเชียรบุรีให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง วัตถุมงคล ของท่านล้วนมีประสบการณ์ด้านอภินิหาร แคล้วคลาดจากภยันตราย และเป็นที่เลื่องลือด้าน เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขายรุ่งเรือง เรียกได้ว่าพุทธคุณครอบจักรวาล
ในปี พ.ศ. 2519 ขณะที่วัดประชานิมิตมีพิธีฝังลูกนิมิต หลวงพ่อผาง จิตตคุตโต พระเกจิสายปฏิบัติชื่อดัง ได้เดินทางมาอธิษฐานจิตปลุกเสก เหรียญรุ่นแรก ของหลวงปู่อำคา ทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างสูง
มีเรื่องเล่ากันว่า ครั้งหนึ่งชาววิเชียรบุรีได้เดินทางไปกราบ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ณ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อหลวงพ่อคูณทราบว่าพวกเขามาจากวิเชียรบุรี ท่านจึงกล่าวว่า
“มึงไปกราบหลวงพ่อใหญ่เถอะ ไม่ต้องมากราบกู ของดีอยู่ที่บ้านมึงนั่นแหละ”
ซึ่งหมายถึงให้ไปกราบหลวงปู่อำคาแทน
ละสังขารอย่างสงบ
หลวงปู่อำคาเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง ไม่ว่าศิษยานุศิษย์จะเดินทางมาไกลเพียงใด ท่านก็เปิดโอกาสให้เข้าพบและให้พรทุกคนเสมอ
ต่อมา เมื่ออายุมากขึ้น ท่านมีอาการอ่อนเพลียและอาพาธ ศิษยานุศิษย์ได้นำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 แต่เนื่องจากท่านมีอายุมากแล้ว จึงละสังขารอย่างสงบในวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 16.08 น.
การจากไปของหลวงปู่อำคา สร้างความเศร้าโศกอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์และชาวจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นอย่างมาก ทว่า คุณงามความดี และพุทธคุณของท่านจะยังคงอยู่ในใจพุทธศาสนิกชนตลอดไป