แกงส้มผลักรวม ฉายาและวาทะแห่งปี ของรัฐบาลไทย 2566
ฉายา “แกงส้มผลักรวม” และนายกรัฐมนตรี “เซลล์แมนสแตนด์” ชิน
ประเพณีประจำปีของสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลไทยคือการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี เพื่อสะท้อนถึงการทำงานและความเคลื่อนไหวทางการเมืองของปีนั้นๆ ประจำปี 2566 ได้มีการตั้งฉายา “แกงส้มผลักรวม“ ให้กับรัฐบาล ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งถึงสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น
คำว่า “แกง” ในที่นี้มีความหมายเป็นสแลงที่หมายถึงการแกล้ง ขณะที่ “ส้ม” สื่อถึงสีของพรรคก้าวไกล คำว่า “ผลักรวม” นั้นมาจาก “ผักรวม” ซึ่งเป็นการล้อเลียนสถานการณ์ที่พรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง ถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาล และเกิดการรวมกลุ่มของหลายพรรคที่มีความแตกต่างกัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังได้รับฉายา เซลล์แมนสแตนด์ชิน เพื่อสะท้อนถึงบทบาทของเขาในการดำเนินนโยบายและการพยายามดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่ประเทศ แต่ยังมีข้อครหาว่าเป็นเพียงตัวแทนของครอบครัวชินวัตร
รองนายกรัฐมนตรี “รองกอง” และรัฐมนตรี “พลิกทินสู่ดาว”
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ได้รับฉายา “รองกอง” ซึ่งแสดงถึงบทบาทของเขาในการรับผิดชอบงานสำคัญหลายอย่างในรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมได้รับฉายา “พลิกทินสู่ดาว” ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากชีวิตประจำวันสู่บทบาทในรัฐบาล
รัฐมนตรี “ทวี สอดไส้” และ “มาเฟียละเหี่ยใจ”
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมได้รับฉายา “ทวี สอดไส้” ที่สะท้อนถึงความท้าทายและความรับผิดชอบที่เขาต้องเผชิญ ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยได้รับฉายา “มาเฟียละเหี่ยใจ” ซึ่งสะท้อนถึงภาพลักษณ์และความท้าทายในการทำงานของเขา
วาทะแห่งปี: “ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”
นายเศรษฐา ทวีสิน ได้กล่าววาทะแห่งปีที่ว่า “ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในการทำงาน แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์จากบางกลุ่มในสังคม แต่นายกรัฐมนตรียังคงยืนยันในความมุ่งมั่นของเขาในการทำงานเพื่อประชาชน
การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีเป็นการสะท้อนความเห็นของสื่อมวลชนต่อรัฐบาลและนักการเมืองในแต่ละปี ซึ่งเป็นประเพณีที่มีความหมายและเป็นที่สนใจของประชาชนในการติดตามดูความเคลื่อนไหวทางการเมืองของประเทศไทย