ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    อาหารแก้กรดไหลย้อน: บรรเทาอาการแสบร้อนด้วยอาหารเหล่านี้

    อาหารแก้กรดไหลย้อน

    อาหารแก้กรดไหลย้อน: บรรเทาอาการแสบร้อนด้วยอาหารเหล่านี้

    กรดไหลย้อน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน สาเหตุหลักมาจากการที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอบ่อยๆ และมีรสเปรี้ยวในปาก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงการเลือกทานอาหารที่เหมาะสม

    อาหารแก้กรดไหลย้อน

    • ผักใบเขียว: ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า ผักโขม และกะหล่ำปลี มีใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
    • ผลไม้: เลือกทานผลไม้ที่มีความเป็นกรดต่ำ เช่น กล้วย แอปเปิล (ปอกเปลือก) แตงโม และมะละกอสุก
    • ธัญพืช: ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และข้าวบาร์เลย์ มีใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด
    • โปรตีน: เลือกทานโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น ไก่ไม่ติดหนัง ปลา เนื้อวัวไม่ติดมัน และไข่ขาว
    • นม: นมไขมันต่ำหรือนมพร่องมันเนย ช่วยเคลือบหลอดอาหารและลดอาการแสบร้อน
    • น้ำเปล่า: การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก

    อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

    • อาหารรสจัด: อาหารรสจัด เช่น พริก กระเทียม และเครื่องเทศต่างๆ จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
    • อาหารทอดและมันเจียว: อาหารทอดและมันเจียวมีไขมันสูง ย่อยยาก และทำให้เกิดอาการท้องอืด
    • อาหารรสเปรี้ยว: ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว และสับปะรด จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
    • กาแฟ ชา และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน: คาเฟอีนจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
    • แอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์จะระคายเคืองเยื่อบุหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร

    เคล็ดลับเพิ่มเติม

    • ทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อ: การทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อจะช่วยลดภาระในการทำงานของกระเพาะอาหาร
    • เคี้ยวอาหารให้ละเอียด: การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด
    • เลิกสูบบุหรี่: บุหรี่จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดบริเวณหลอดอาหารอ่อนแรงลง ทำให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น
    • หลีกเลี่ยงการนอนราบหลังทานอาหารทันที: ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 ชั่วโมง
    • ยกหัวเตียงให้สูงขึ้น: การยกหัวเตียงให้สูงขึ้นประมาณ 15-20 เซนติเมตร จะช่วยลดแรงดันในกระเพาะอาหาร

    ข้อควรระวัง: หากอาการกรดไหลย้อนไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

    บทสรุป

    การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นสิ่งสำคัญในการบรรเทาอาการกรดไหลย้อน การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารแก้กรดไหลย้อน ที่เราแนะนำไปข้างต้น และหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น

    สูตรไข่ดองน้ำปลา

    สูตรไข่ดองน้ำปลา ทำง่าย อร่อยถึงใจ!

    ไข่ดองน้ำปลา เมนูทานเล่นสุดคลาสสิก ที่ใครๆ ก็ทำได้ แถมยังอร่อยถูกปากอีกด้วยค่ะ วิธีทำก็ง่ายนิดเดียว แค่มีส่วนผสมไม่กี่อย่างก็สามารถทำได้ที่บ้านแล้ว มาดูสูตรและขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ

    ส่วนผสมทำไข่ดองน้ำปลา

    • ไข่ไก่สด
    • น้ำปลา
    • น้ำตาลปี๊บ
    • น้ำเปล่า
    • กระเทียม (สำหรับโรยหน้า)
    • พริกขี้หนู (สำหรับโรยหน้า)
    • หอมแดง (สำหรับโรยหน้า)
    • น้ำมะนาว (สำหรับโรยหน้า)

    อุปกรณ์

    • หม้อ
    • ช้อน
    • ขวดโหลแก้ว

    วิธีทำไข่ดองน้ำปลา

    1. เตรียมน้ำดอง: ตวงน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าใส่หม้อ คนให้เข้ากัน ตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด จากนั้นปิดไฟ พักให้เย็นสนิท
    2. เตรียมไข่: ล้างไข่ไก่ให้สะอาด ตอกไข่ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ทิ้งไข่ขาวไป (หรือจะนำไปทำเมนูอื่นๆ ต่อก็ได้)
    3. ดองไข่: นำไข่แดงที่แยกไว้ใส่ลงในน้ำดองที่เย็นแล้ว ปิดฝาขวดโหลให้สนิท นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 คืน หรือจนกว่าไข่แดงจะมีความหนึบตามต้องการ
    4. จัดเสิร์ฟ: นำไข่ดองออกจากตู้เย็น ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียม พริกขี้หนู หอมแดงซอย และบีบน้ำมะนาวเล็กน้อย ก่อนเสิร์ฟ

    เคล็ดลับสูตรไข่ดองน้ำปลาเด็ด

    • เลือกไข่ไก่สด: เพื่อให้ได้ไข่ดองที่มีคุณภาพดี
    • น้ำดอง: ปรับปริมาณน้ำปลา น้ำตาล และน้ำเปล่าได้ตามชอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปาก
    • ระยะเวลาการดอง: ปรับระยะเวลาการดองได้ตามความชอบ หากต้องการไข่แดงที่หนึบมากขึ้น สามารถดองทิ้งไว้ได้นานขึ้น
    • น้ำจิ้ม: นอกจากจะรับประทานไข่ดองเปล่าๆ แล้ว สามารถทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือน้ำจิ้มพริกก็อร่อย

    ไข่ดองน้ำปลา เป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน แต่ได้รสชาติที่อร่อย กลมกล่อม เหมาะสำหรับทานเป็นอาหารว่าง หรือทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ลองทำตามสูตรนี้ดูนะคะ รับรองว่าติดใจแน่นอน

    คำแนะนำเพิ่มเติม:

    • ความปลอดภัย: ควรเลือกภาชนะที่สะอาดในการทำไข่ดอง และควรเก็บไข่ดองในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
    • วัตถุดิบอื่นๆ: สามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆ ลงไปในน้ำดองได้ เช่น ใบเตย หรือสมุนไพรชนิดอื่นๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่หลากหลาย
    • การปรับรสชาติ: หากต้องการรสชาติที่เผ็ดมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณพริกขี้หนูได้ หรือหากต้องการรสชาติที่หวานน้อยลง สามารถลดปริมาณน้ำตาลได้

    ขอให้สนุกกับการทำอาหารนะคะ!

    ลอยกระทง 2567

    ลอยกระทงออนไลน์ 2567: สืบสานประเพณีไทย สร้างสรรค์โลกสีเขียว

    เทศกาลลอยกระทง เป็นประเพณีไทยอันงดงามที่สืบทอดกันมาช้านาน แต่ในปัจจุบัน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงเห็นแนวคิดใหม่ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมและความใส่ใจสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ การลอยกระทงออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2567 นี้

    ทำไมต้องลอยกระทงออนไลน์?

    • ลดปริมาณขยะ: การลอยกระทงแบบเดิมๆ สร้างขยะจำนวนมากจากวัสดุที่ย่อยสลายยาก เช่น โฟม พลาสติก การลอยกระทงออนไลน์ช่วยลดปัญหาขยะและรักษาความสะอาดของแหล่งน้ำ
    • สืบสานประเพณี: แม้จะเป็นการลอยกระทงแบบออนไลน์ แต่ก็ยังคงความหมายและวัตถุประสงค์ของประเพณีเดิมๆ คือ การขอขมาพระแม่คงคา และขอพรให้ชีวิตมีความสุข
    • เข้าถึงง่าย: ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถร่วมกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    • สร้างสรรค์: มีกิจกรรมและรูปแบบการลอยกระทงออนไลน์ที่หลากหลายให้เลือก ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้สนุกสนานและสร้างสรรค์

    รูปแบบการลอยกระทงออนไลน์ที่น่าสนใจ

    • การสร้างกระทงเสมือนจริง: หลายเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้พัฒนาฟังก์ชันการสร้างกระทงเสมือนจริง ผู้ใช้งานสามารถเลือกวัสดุ รูปแบบ และตกแต่งกระทงได้ตามใจชอบ ก่อนนำไปลอยในโลกออนไลน์
    • การร่วมกิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย: มีการจัดกิจกรรมต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย เช่น การแชร์ภาพกระทงที่ทำเอง การเขียนคำอธิษฐาน และการร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับประเพณีลอยกระทง
    • การบริจาค: บางแพลตฟอร์มอนุญาตให้ผู้ใช้งานบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือโครงการช่วยเหลือสังคม

    ประโยชน์ที่ได้รับจากการลอยกระทงออนไลน์

    • ส่งเสริมจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: การเลือกใช้วิธีการลอยกระทงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับผู้คน
    • สร้างความสามัคคี: การร่วมกิจกรรมออนไลน์ทำให้ผู้คนได้มีปฏิสัมพันธ์และแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน
    • ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย: การสืบทอดประเพณีลอยกระทงผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยให้วัฒนธรรมไทยเป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

    ข้อควรพิจารณา

    • เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ: ก่อนตัดสินใจร่วมกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ ควรเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย และมีกิจกรรมที่หลากหลาย
    • ร่วมกันสร้างสรรค์: แบ่งปันไอเดียและความคิดเห็นกับคนรอบข้าง เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ที่สนุกสนานและมีประโยชน์
    • ส่งเสริมให้คนอื่นๆ ร่วมกิจกรรม: ชวนเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง และคนในชุมชนมาร่วมกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ เพื่อขยายผลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    สรุป

    การลอยกระทงออนไลน์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสืบสานประเพณีไทย และในขณะเดียวกันก็ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย การร่วมกิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสุขให้กับตนเอง แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

    ลอยกระทงออนไลน์ รักษ์โลกไปกับเราได้แล้ววันนี้ ที่นี่ >> https://season.sanook.com/loykrathong/

    5 อันดับแหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่คุณควรรู้ มีอะไรบ้าง

    5 อันดับแหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่คุณควรรู้ มีอะไรบ้าง

    ในยุคปัจจุบัน หลายคนหันมาหาคาเฟอีนจากแหล่งธรรมชาติมากขึ้น เพราะเชื่อว่าดีต่อสุขภาพมากกว่าการรับคาเฟอีนจากเครื่องดื่มสำเร็จรูป เช่น กาแฟและเครื่องดื่มพลังงาน วันนี้เราจะพาคุณแม่หยัวและทุกคนมาดู 5 แหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่มีปริมาณคาเฟอีนสูงสุดถึงต่ำสุด

    1. กาแฟอาราบิก้า (Arabica Coffee)

    กาแฟอาราบิก้าให้คาเฟอีนสูงสุดที่ประมาณ 60-70 มก. ต่อถ้วยมาตรฐาน และเป็นแหล่งคาเฟอีนยอดนิยมของคนทั่วโลก โดยมีรสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นตัวเลือกแรกสำหรับคนที่ต้องการความตื่นตัวทันที

    2. ชามัทฉะ (Matcha Tea)

    ชาเขียวมัทฉะจากญี่ปุ่นมีคาเฟอีนประมาณ 40-70 มก. ต่อถ้วย และมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างมากมาย ชามัทฉะเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ ที่ต้องการคาเฟอีนในปริมาณกลาง ๆ และช่วยให้ตื่นตัวนานกว่า

    3. ช็อกโกแลตดาร์ก (Dark Chocolate)

    ดาร์กช็อกโกแลตเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่ดี เพราะมีคาเฟอีนประมาณ 12 มก. ต่อ 28 กรัม ซึ่งช่วยให้ตื่นตัวได้เล็กน้อย และยังมีสารฟีนิลเอธิลามีนที่ช่วยให้ความรู้สึกมีความสุข

    4. กระวานดำ (Black Cardamom)

    กระวานดำอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักว่าเป็นแหล่งคาเฟอีน แต่ให้คาเฟอีนประมาณ 10 มก. และสามารถนำมาใส่ในเครื่องดื่มเช่น ชา เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่เพิ่มขึ้น

    5. กระชายดำ (Kra Chai Dam)

    แม้จะเป็นแหล่งคาเฟอีนที่มีคาเฟอีนต่ำสุด แต่กระชายดำกลับเป็นสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและเสริมสมรรถภาพ โดยเหมาะสำหรับคนที่อยากได้พลังเพิ่มโดยไม่ทำให้กระวนกระวาย

    สรุป

    การเลือกแหล่งคาเฟอีนจากธรรมชาติตามลำดับนี้สามารถทำได้ตามความชอบ และหากคุณแม่หยัวต้องการคาเฟอีนต่ำก็สามารถเลือกกระชายดำได้ เพื่อเสริมพลังในแต่ละวันอย่างเป็นธรรมชาติ

    เปิดกรุสมุนไพรล้านนา “มะแขว่น” ที่ซ่อนพลังบำรุงผิว

    เปิดกรุสมุนไพรล้านนา “มะแขว่น” ที่ซ่อนพลังบำรุงผิว

    มะแขว่น” หรือ “ฮก” เป็นสมุนไพรที่โดดเด่นในวัฒนธรรมล้านนา ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวเหนือซึ่งนิยมนำมาใช้ในอาหารและยาสมุนไพรมายาวนาน ด้วยรสเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้ “มะแขว่น” เป็นที่นิยมอย่างมากในการปรุงอาหารพื้นบ้าน เช่น ลาบ แกงโฮะ และแกงฮังเล นอกจากนี้ ยังถูกนำมาใช้ในศาสตร์ความงามของพระสนมล้านนา หรือ “แม่หยัว” ที่ต้องการมีผิวพรรณเปล่งปลั่งและสดใส

    ตำนานและความสำคัญของ “มะแขว่น” ในล้านนา “มะแขว่น” มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ล้านนามาหลายร้อยปี ในฐานะสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคและบำรุงสุขภาพ บรรเทาอาการท้องอืด ปวดข้อ และเสริมสมรรถภาพการย่อยอาหาร ทำให้เป็นที่รักและยอมรับในวัฒนธรรมล้านนา นอกจากการใช้งานทางการแพทย์แล้ว “มะแขว่น” ยังแฝงด้วยคุณค่าทางจิตวิญญาณ ชาวล้านนาเชื่อว่าการนำสมุนไพรชนิดนี้มาใช้สามารถช่วยปรับสมดุลร่างกายได้อย่างดี

    “มะแขว่น” กับความงามของพระสนมล้านนา นอกจากบทบาทในครัวแล้ว “มะแขว่น” ยังถูกใช้ในการดูแลผิวพรรณของพระสนมในวังล้านนา โดย “มะแขว่น” มีสารที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด ช่วยปรับสมดุลภายใน ทำให้ผิวพรรณสดใสและดูอ่อนเยาว์ และกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “อาวุธลับ” ของเหล่าพระสนม

    วิธีการใช้ “มะแขว่น” เพื่อความงาม

    • การใช้ “มะแขว่น” ต้มกับน้ำใช้เป็นสเปรย์ฉีดผิว ช่วยบำรุงผิวให้ดูสดใส
    • ใช้เป็นส่วนผสมในสครับผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม
    • ใช้ “มะแขว่น” เป็นส่วนประกอบในน้ำมันหอมระเหย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดการปวดเมื่อย

    สรุป “มะแขว่น” ไม่เพียงแต่เป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าทางด้านสุขภาพและอาหาร แต่ยังเป็นตัวแทนของภูมิปัญญาท้องถิ่นล้านนา ซึ่งสืบทอดมาอย่างยาวนาน การนำ “มะแขว่น” มาใช้ในการดูแลผิวพรรณและบำรุงสุขภาพ ทำให้คนรุ่นใหม่เห็นถึงความสำคัญของสมุนไพรไทยที่มีคุณค่าสูงและยังประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย

    เปิดตำนานดิวาลี ฉลองเทศกาลแห่งแสงที่ “ลิตเติ้ลอินเดีย” กรุงเทพ

    เปิดตำนานดิวาลี ฉลองเทศกาลแห่งแสงที่ “ลิตเติ้ลอินเดีย” กรุงเทพ

    ดิวาลี หรือ “Deepavali” แปลว่า “แถวแห่งแสงไฟ” ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของอินเดีย เป็นการเฉลิมฉลองความสว่างที่ชนะความมืดและการมีโชคลาภ เทศกาลนี้จึงมีการจุดโคมไฟตามบ้านเรือนและสถานที่สำคัญ ในกรุงเทพฯ ลิตเติ้ลอินเดียได้เตรียมการจัดงานดิวาลีในปี 2567 โดยมีพิธีบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งความมั่งคั่งที่คนฮินดูให้ความเคารพ และเป็นที่พึ่งของคนที่ต้องการความเจริญรุ่งเรือง

    ความเชื่อเกี่ยวกับพระแม่ลักษมี
    พระแม่ลักษมีเป็นเทพีที่คนศรัทธาเพื่อขอพรในเรื่องการเงินและความสุข การบูชาท่านในช่วงดิวาลีจึงเป็นเสมือนการเรียกโชคลาภเข้ามาสู่บ้าน ประเพณีนี้แสดงถึงการต้อนรับความมั่งคั่งและความสุขที่มาพร้อมกับการเริ่มต้นใหม่ที่สดใส

    กิจกรรมในงานดิวาลีที่ลิตเติ้ลอินเดีย
    สำหรับปีนี้ลิตเติ้ลอินเดีย กรุงเทพ เตรียมจัดกิจกรรมมากมายในเทศกาลดิวาลี 2567 ตั้งแต่การแสดงการเต้นรำ การสาธิตวิธีการทำรังโกลี และงานคราฟต์ต่างๆ ที่สะท้อนวัฒนธรรมอินเดีย รวมถึงมีอาหารพื้นบ้านอินเดียที่หาทานยากให้ลองลิ้มรส

    ดื่มกาแฟ ดีไหม

    ดื่มกาแฟ ดีไหม? รู้จักประโยชน์และโทษของกาแฟให้มากขึ้น

    กาแฟ เครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนขาดไม่ได้ในตอนเช้า หรือแม้แต่ตลอดทั้งวัน แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่าการดื่มกาแฟดีไหม ดื่มกาแฟบ่อย ๆ นั้นดีต่อสุขภาพหรือไม่? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของกาแฟกัน

    ประโยชน์ของกาแฟ

    • เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า: คาเฟอีนในกาแฟช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้รู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิมากขึ้น
    • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: การดื่มกาแฟก่อนทำงานหรือเรียน จะช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ: การศึกษาหลายชิ้นพบว่าการดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคตับแข็ง
    • เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ: กาแฟอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
    • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า: การศึกษาบางชิ้นพบว่าการดื่มกาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้าได้

    โทษของกาแฟ

    • ทำให้หลับยาก: คาเฟอีนในกาแฟจะไปรบกวนการนอนหลับ ทำให้หลับยากและหลับไม่สนิท หากดื่มกาแฟในปริมาณมากหรือใกล้เวลานอน
    • เพิ่มความวิตกกังวล: คาเฟอีนอาจทำให้เกิดอาการใจสั่น วิตกกังวล และกระสับกระส่ายได้
    • เพิ่มความดันโลหิต: การดื่มกาแฟอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว
    • ทำให้กระดูกพรุน: การดื่มกาแฟมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพของกระดูก
    • ทำให้ท้องเสีย: คาเฟอีนอาจกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานมากขึ้น ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้

    ดื่มกาแฟอย่างไรให้ปลอดภัย

    • ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ: ไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ 3-4 แก้ว
    • เลือกดื่มกาแฟดำ: กาแฟดำมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟที่มีส่วนผสมของนมและน้ำตาล
    • หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟก่อนนอน: ควรหยุดดื่มกาแฟอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนนอน
    • เลือกดื่มกาแฟคุณภาพดี: กาแฟคุณภาพดีจะมีรสชาติอร่อย และมีคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสม

    สรุปแล้ว การดื่มกาแฟนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับปริมาณและสุขภาพของแต่ละบุคคล การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะและเลือกดื่มกาแฟคุณภาพดี จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากกาแฟได้อย่างเต็มที่

    หากคุณมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะดื่มกาแฟ

    วันขอเงินพระจันทร์ 2567 วิธีขอพรเสริมดวงการเงินให้มั่นคง

    วันขอเงินพระจันทร์ 2567 วิธีขอพรเสริมดวงการเงินให้มั่นคง

    1 พฤศจิกายน 2567 เป็นวันที่เหล่านักพยากรณ์และผู้ศรัทธารอคอยในการขอพรจากพระจันทร์ ในวันนี้พระจันทร์อยู่ในช่วงพลังเต็มดวงที่สุด เชื่อกันว่าสามารถดึงดูดโชคและทรัพย์สินเข้าสู่ชีวิตของผู้ที่ขอพรอย่างจริงจัง อีกทั้งยังเป็นวันที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นโครงการการเงินต่าง ๆ เพื่อเสริมความเจริญรุ่งเรืองในด้านการเงิน

    วิธีขอพรเรียกทรัพย์จากพระจันทร์

    1. เตรียมบรรยากาศให้สงบ: นั่งในที่สงบ เปิดเทียนหรือธูปในสีทองหรือเงิน
    2. ตั้งจิตอธิษฐานอย่างตั้งใจ: กล่าวคำขอเงินจากพระจันทร์โดยระบุสิ่งที่ต้องการให้เกิดในด้านการเงิน เช่น การหนี้สินลด การได้มาซึ่งโชคทรัพย์สิน
    3. ใช้คาถาเรียกทรัพย์: ท่องคาถาตามศรัทธาที่เชื่อว่าจะช่วยเสริมโชค เช่น “โอม ศรี มหาเศรษฐี รวย รวย รวย” เพื่อเป็นการเสริมสร้างจิตใจให้มั่นคง
    4. พกเหรียญเรียกทรัพย์: หลายคนเชื่อว่าการพกเหรียญไว้ในกระเป๋าในคืนพระจันทร์เต็มดวงจะเสริมดวงการเงินได้

    ข้อแนะนำ
    ควรตั้งใจอธิษฐานอย่างมีสติและไม่โลภมาก การขอเงินจากพระจันทร์ไม่ใช่การวิงวอนขอเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการตั้งเป้าหมายและเสริมพลังบวกเพื่อให้เรามีกำลังใจในการทำงานหาเงินตามที่ขอไว้

    ถ่ายทอดสดหวยวันนี้ 1 พ.ย. 67 ลุ้นรางวัลใหญ่ที่นี่

    ถ่ายทอดสดหวยวันนี้ 1 พ.ย. 67 ลุ้นรางวัลใหญ่ที่นี่

    การตรวจหวยเป็นกิจกรรมที่คนไทยสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ หลายคนที่มีความหวังในการถูกหวย สามารถติดตามการออกรางวัลแบบสด ๆ และตรวจผลได้ทันที เพื่อไม่พลาดการอัปเดตเลขเด็ดรางวัลต่าง ๆ ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับคอหวยทุกท่าน

    ถ่ายทอดสดผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 พ.ย. 67 ทางออนไลน์

    ท่านสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 พฤศจิกายน 2567 ทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ ผ่านหลากหลายช่องทางที่เปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่อัปเดตข้อมูลรวดเร็ว สามารถตรวจสอบผลหวยแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะไม่พลาดทุกการออกรางวัลสำคัญในงวดนี้

    รับชมถ่ายทอดสดและเช็กผลหวยได้ที่ไหนบ้าง?

    สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการดูผลสลากที่สำนักงานสลากกินแบ่ง สามารถเข้าชมการถ่ายทอดสดผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้ โดยช่องทางต่าง ๆ ได้รับการยืนยันในการประกาศผลอย่างเป็นทางการ ช่วยให้ท่านสามารถเช็กผลหวยได้อย่างสะดวกและปลอดภัยจากที่บ้าน หรือสถานที่ใดก็ได้

    บูชาพระพิฆเนศในบ้านอย่างไรให้ได้ผลทันใจ? พร้อมคาถา

    บูชาพระพิฆเนศในบ้านอย่างไรให้ได้ผลทันใจ? พร้อมคาถา

    บทสวดและความหมายของคาถาพระพิฆเนศ

    พระพิฆเนศเป็นเทพที่มีพลังอันสูงส่งในการขจัดอุปสรรคและเสริมความสำเร็จ ผู้บูชาสามารถสวดคาถาเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลในชีวิต โดยบทสวดนี้มีความหมายในการขอพรเพื่อการเริ่มต้นใหม่ที่ราบรื่น มีคาถาที่นิยมดังนี้:

    • คาถาสวดขอพรพระพิฆเนศ: “โอม ศรี คเณศายะ นะมะห์”
    • บทบูชาเพิ่มเติม: “โอม คเณศายะ นะโม นะมะห์ วัคตุนฑายะ นะโม นะมะห์”

    วิธีการบูชาพระพิฆเนศในบ้าน

    การบูชาพระพิฆเนศไม่เพียงแต่ทำที่วัดเท่านั้น แต่สามารถทำในบ้านได้อย่างสะดวก เพื่อสร้างความสงบและเสริมพลังด้านบวก:

    1. เตรียมอุปกรณ์บูชา: ธูป เทียน พวงมาลัยดาวเรือง และผลไม้สดที่สะอาด
    2. ขั้นตอนการบูชา:
      • นำพวงมาลัยดาวเรืองมาวางไว้หน้าพระพิฆเนศ
      • จุดธูป 1 ดอก สวดคาถา และตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ต้องการ
      • เมื่อบูชาเสร็จ ให้เก็บของถวายไว้ก่อนนำไปทิ้งในวันถัดไป
    3. เวลาในการบูชา: แนะนำให้บูชาในช่วงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการตั้งจิตใจให้สงบและขอพร

    เคล็ดลับในการสวดบูชาให้ได้ผล

    1. ตั้งใจและสมาธิ: เมื่อสวดคาถาควรจดจ่ออยู่กับการขอพรและมีความตั้งใจชัดเจน
    2. ไม่ขอพรในเรื่องที่ขัดแย้งกัน: ควรขอพรที่สอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อให้ได้รับผลที่ดี
    3. ความสม่ำเสมอในการบูชา: สวดคาถาเป็นประจำเพื่อความต่อเนื่องในการเสริมสิริมงคล

    ทั้งนี้ การบูชาพระพิฆเนศด้วยความตั้งใจและสมาธิจะช่วยให้ผู้สวดได้รับพรและความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาอย่างมั่นคง


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า