ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    เปิดรายชื่อ 10 ชื่อเล่นยอดนิยม ที่โหลที่สุดในไทยตอนนี้

    เปิดรายชื่อ 10 ชื่อเล่นยอดนิยม ที่โหลที่สุดในไทยตอนนี้

    เปิดรายชื่อ 10 ชื่อเล่นยอดนิยม ที่โหลที่สุดในไทยตอนนี้

    เมื่อพูดถึงชื่อเล่นในประเทศไทย หลายคนคงเคยได้ยินชื่อซ้ำๆ กันมาหลายครั้ง นั่นเป็นเพราะบางชื่อเล่นได้รับความนิยมอย่างสูงในแต่ละยุคสมัย ทำให้หลายคนมักจะมีชื่อเล่นที่คล้ายกัน โดยวันนี้เราจะมาดูกันว่า 10 อันดับชื่อเล่นที่โหลที่สุดในไทยสำหรับผู้ชายและผู้หญิง มีชื่อของคุณหรือเปล่า? มาดูกันเลย!

    10 อันดับชื่อเล่นยอดนิยมสำหรับผู้ชาย

    1. โอ๊ต – ชื่อเล่นที่สั้น จำง่าย และมีเสน่ห์ในตัวเอง
    2. ตูน – ชื่อที่ฟังดูน่ารักและอบอุ่น ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่
    3. อาร์ม – ชื่อที่เรียกง่าย สั้น และทันสมัย
    4. บูม – ชื่อเล่นที่เหมาะกับเด็กชายที่มีพลังงานเยอะ
    5. เบิร์ด – ชื่อที่โด่งดังจากนักร้องชื่อดัง ทำให้ได้รับความนิยมมาก
    6. ดิว – ชื่อสั้น เรียกง่าย และมีความเป็นเอกลักษณ์
    7. ฟลุ๊ค – ชื่อเล่นที่ฟังดูน่ารักและเป็นกันเอง
    8. นนท์ – ชื่อที่ฟังแล้วดูสงบและเป็นมิตร
    9. ป๊อป – ชื่อเล่นที่สั้นและมีความหมายว่าเป็นที่นิยม
    10. แบงค์ – ชื่อที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดในทุกยุคทุกสมัย

    10 อันดับชื่อเล่นยอดนิยมสำหรับผู้หญิง

    1. น้ำตาล – ชื่อที่หวานเหมือนกับตัวชื่อเอง เป็นชื่อที่น่ารักมาก
    2. มะปราง – ชื่อที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและเป็นเอกลักษณ์
    3. ใบเฟิร์น – ชื่อที่สื่อถึงความงามและความอ่อนโยน
    4. แอน – ชื่อเล่นที่มาจากภาษาอังกฤษแต่ยังคงได้รับความนิยม
    5. ดาว – ชื่อที่ฟังดูสดใสและสว่างไสว
    6. ขิม – ชื่อเล่นที่สั้นและเก๋ ดูมีเอกลักษณ์
    7. แตงโม – ชื่อที่สนุกและน่ารัก ฟังแล้วจำง่าย
    8. มิ้นท์ – ชื่อเล่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สะอาด
    9. ฟ้า – ชื่อที่ให้ความรู้สึกกว้างใหญ่และอิสระ
    10. จอย – ชื่อที่สื่อถึงความสนุกสนานและความสุข

    ชื่อเล่นแต่ละชื่อมีความน่ารักและเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย หากคุณมีชื่อเหล่านี้อยู่ในลิสต์ ก็แสดงว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว!

    เปิดเผย 10 พฤติกรรมทำลายกล้ามเนื้อที่คุณต้องเลิกทำทันที

    เปิดเผย 10 พฤติกรรมทำลายกล้ามเนื้อที่คุณต้องเลิกทำทันที

    การสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงไม่ใช่แค่การออกกำลังกายเท่านั้น แต่พฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้คุณสูญเสียกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากไม่ระวังอาจส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลง ลองมาดูกันว่าพฤติกรรมใดบ้างที่ทำให้กล้ามเนื้อหายไปอย่างน่าตกใจ!

    1. ทานโปรตีนน้อยเกินไป

    โปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ หากทานโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายจะเริ่มสลายกล้ามเนื้อเพื่อให้ได้กรดอะมิโนที่ต้องการ ส่งผลให้คุณสูญเสียกล้ามเนื้ออย่างไม่รู้ตัว

    2. พักผ่อนไม่เพียงพอ

    การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ หากคุณนอนไม่พอหรือมีปัญหาในการนอน อาจส่งผลให้ร่างกายสลายกล้ามเนื้อแทนที่จะสร้างใหม่

    3. ออกกำลังกายหนักเกินไป

    การออกกำลังกายที่หนักเกินไปหรือไม่มีวันพักร่างกาย อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับการฟื้นฟูเพียงพอ จนนำไปสู่การสูญเสียกล้ามเนื้อแทนที่จะสร้าง

    4. ขาดสารอาหารที่สำคัญ

    นอกจากโปรตีนแล้ว คาร์โบไฮเดรตและไขมันที่ดีต่อสุขภาพก็มีบทบาทในการสร้างกล้ามเนื้อ หากขาดสารอาหารเหล่านี้ ร่างกายจะหันไปสลายกล้ามเนื้อเพื่อใช้พลังงานแทน

    5. ไม่ยืดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย

    การยืดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายช่วยป้องกันการบาดเจ็บและส่งเสริมการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ หากละเลยการยืดกล้ามเนื้อ อาจทำให้กล้ามเนื้อลดลงเร็วขึ้น

    6. เครียดสะสม

    ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณสูง ซึ่งฮอร์โมนนี้สามารถทำลายกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นหากคุณเครียดบ่อยครั้ง ร่างกายอาจสลายกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว

    7. ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

    การดื่มแอลกอฮอล์บ่อยครั้งและมากเกินไปสามารถรบกวนการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลง และอาจสูญเสียกล้ามเนื้อในระยะยาว

    8. นั่งอยู่กับที่นานเกินไป

    การนั่งหรืออยู่ในท่าเดิมนานๆ โดยไม่มีการขยับตัว ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลง และเริ่มสลายตัว

    9. ลดน้ำหนักเร็วเกินไป

    การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วด้วยการลดแคลอรีอย่างมาก อาจทำให้ร่างกายสลายกล้ามเนื้อเพื่อใช้เป็นพลังงานแทนการสลายไขมัน

    10. ไม่ดื่มน้ำเพียงพอ

    การดื่มน้ำน้อยเกินไปทำให้กระบวนการเผาผลาญและซ่อมแซมกล้ามเนื้อทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายจึงสลายกล้ามเนื้อเพื่อรักษาระดับพลังงาน


    สรุป
    พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้คุณสูญเสียกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและให้ความสำคัญกับการพักผ่อน การรับประทานอาหารที่มีคุณค่า และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะช่วยรักษากล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายของคุณได้อย่างยั่งยืน

    น้ำมะพร้าว VS น้ำกะทิ แบบไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน

    น้ำมะพร้าว VS น้ำกะทิ แบบไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน


    น้ำมะพร้าว
     กับ น้ำกะทิ
     แม้ทั้งสองอย่างจะมีต้นกำเนิดจากมะพร้าวเหมือนกัน แต่คุณสมบัติและประโยชน์แตกต่างกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสุขภาพ หรือการนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มาดูกันว่าทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนถึงจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า

    น้ำมะพร้าว: ความสดชื่นจากธรรมชาติ

    น้ำมะพร้าว เป็นของเหลวที่ได้จากมะพร้าวอ่อน ให้รสชาติหอมหวานสดชื่น น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินซี และแร่ธาตุต่างๆ น้ำมะพร้าวยังช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง

    นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังถูกยกย่องว่าเป็น “เครื่องดื่มฟื้นฟูร่างกาย” หลังการออกกำลังกาย เนื่องจากช่วยคืนความสมดุลของน้ำในร่างกายได้ดี ทั้งยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะแคลอรีต่ำและไขมันน้อย

    น้ำกะทิ: คุณค่าในครัว แต่ไขมันสูง

    น้ำกะทิ เกิดจากการคั้นเนื้อมะพร้าวแก่ ผสมกับน้ำให้เข้ากันเพื่อให้ได้น้ำข้นๆ สีขาวครีมที่นิยมใช้ในอาหารคาวหวานหลายชนิด น้ำกะทิมีส่วนประกอบของไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในการสร้างพลังงานและให้ความอบอุ่น แต่หากบริโภคมากเกินไปก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและคอเลสเตอรอลสูง

    น้ำกะทิยังมีสารอาหารสำคัญ เช่น กรดลอริก ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แต่ปริมาณไขมันที่สูงทำให้ควรบริโภคอย่างระมัดระวัง

    เปรียบเทียบประโยชน์: น้ำมะพร้าว vs น้ำกะทิ

    • น้ำมะพร้าว เหมาะสำหรับการดื่มเพื่อความสดชื่นและเพิ่มสารอาหารให้แก่ร่างกาย มีแคลอรีต่ำและเหมาะกับการดูแลสุขภาพ
    • น้ำกะทิ มีประโยชน์ต่อการประกอบอาหารและเสริมสร้างพลังงาน แต่ควรบริโภคอย่างพอดี เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวสูง

    สรุป: ควรเลือกอะไรดี?

    ทั้ง น้ำมะพร้าว และ น้ำกะทิ มีประโยชน์ในแบบของตัวเอง น้ำมะพร้าวเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการดื่มเพื่อสุขภาพประจำวัน ในขณะที่น้ำกะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารไทย ควรเลือกบริโภคอย่างสมดุลเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

    งานแต่งงานสุดโรแมนติก “วุ้นเส้น-ไฮโซนิกม์” ที่โพรวองซ์ ฝรั่งเศส สร้างบรรยากาศรักท่ามกลางธรรมชาติ

    งานแต่งงานสุดโรแมนติก “วุ้นเส้น-ไฮโซนิกม์” ที่โพรวองซ์ ฝรั่งเศส สร้างบรรยากาศรักท่ามกลางธรรมชาติ


    งานแต่งงานของดาราสาวชื่อดัง “วุ้นเส้น” และ ไฮโซนิกม์ ที่จัดขึ้น ณ เมืองโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส นับเป็นอีกหนึ่งงานแต่งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานและแฟนคลับทั่วโลก ด้วยบรรยากาศที่หรูหราและโรแมนติกอย่างไร้ที่ติ ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามของภูมิประเทศในโพรวองซ์ เมืองที่เต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ทำให้การจัดงานในครั้งนี้ดูโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก

    บรรยากาศงานแต่งที่หรูหราและอบอุ่น

    เมืองโพรวองซ์ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในโลก ด้วยทิวทัศน์ของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ทอดยาวและอาคารโบราณสไตล์ยุโรป ในงานแต่งของ “วุ้นเส้น” และ ไฮโซนิกม์ สถานที่ถูกเนรมิตให้มีความสวยงามและคลาสสิกด้วยการตกแต่งแบบเรียบหรูและดูโรแมนติกอย่างเป็นธรรมชาติ ภาพทุ่งดอกไม้ที่สวยงามและอาคารเก่าแก่สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบ แต่ยังคงไว้ซึ่งความโรแมนติกที่หาที่ใดไม่ได้นอกจากโพรวองซ์

    การตกแต่งที่เน้นความโรแมนติกและหรูหรา

    การตกแต่งในงานนี้ได้รับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน โดยเน้นความเป็นธรรมชาติและการออกแบบที่หรูหรา แสงไฟอ่อนๆ และการจัดดอกไม้สดที่มาในโทนสีพาสเทลเพิ่มความอบอุ่นและนุ่มนวลให้กับงาน บรรยากาศรอบๆ งานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความใกล้ชิดระหว่างแขกผู้เข้าร่วมงานและคู่บ่าวสาว

    เมนูอาหารและการบริการระดับพรีเมียม

    นอกจากบรรยากาศที่สวยงามแล้ว งานแต่งนี้ยังมีการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพสูง เมนูอาหารประกอบด้วยอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี พร้อมกับไวน์คุณภาพเยี่ยมจากโพรวองซ์ที่ทำให้แขกทุกคนได้รับประสบการณ์สุดพิเศษ

    งานแต่งของ “วุ้นเส้น” และ ไฮโซนิกม์ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความรักของทั้งคู่ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียดของงาน สถานที่และบรรยากาศที่งดงามนี้ทำให้งานแต่งเป็นหนึ่งในงานที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี

    วงล้อสุ่ม-Random Wheel-สุ่มวงล้อ

    วงล้อสุ่ม เครื่องมือสร้างความสนุกสนาน เล่นเกมอะไรได้บ้าง?

    วงล้อสุ่ม หรือ Random Wheel เป็นเครื่องมือออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ง่ายและสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ทำให้วงล้อสุ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมกับเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่ใช้ในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ก็ตาม

    วงล้อสุ่มใช้ทำอะไรได้บ้าง?

    • เล่นเกม: วงล้อสุ่มสามารถนำมาใช้เล่นเกมได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
      • เกมทายคำ: สุ่มคำศัพท์หรือประโยคให้เพื่อนทาย
      • เกมลงโทษ: สุ่มบทลงโทษสนุกๆ สำหรับผู้ที่แพ้เกม
      • เกมเลือกของรางวัล: สุ่มของรางวัลให้กับผู้โชคดี
      • เกมตัดสินใจ: สุ่มเลือกตัวเลือกต่างๆ เมื่อไม่รู้จะเลือกอะไรดี
    • สร้างกิจกรรม: วงล้อสุ่มสามารถนำมาใช้สร้างกิจกรรมต่างๆ เช่น
      • กิจกรรมกลุ่ม: สุ่มเลือกคนขึ้นมาทำกิจกรรม
      • กิจกรรมสันทนาการ: สุ่มเลือกเกมหรือกิจกรรมที่น่าสนใจ
      • กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้: สุ่มคำถามหรือแบบฝึกหัด
    • สร้างความบันเทิง: วงล้อสุ่มสามารถนำมาใช้สร้างความบันเทิงในงานปาร์ตี้ งานเลี้ยง หรือกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

    เลือกเว็บไซต์สร้างวงล้อสุ่มอย่างไร?

    ปัจจุบันมีเว็บไซต์สร้างวงล้อสุ่มให้เลือกใช้งานมากมาย คุณสามารถเลือกเว็บไซต์ที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

    • ฟีเจอร์: เลือกเว็บไซต์ที่มีฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่น สามารถปรับแต่งสี รูปแบบตัวอักษร เพิ่มภาพ หรือเสียงประกอบได้
    • ความง่ายในการใช้งาน: เลือกเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
    • ความปลอดภัย: เลือกเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่ดี
    • ความหลากหลาย: เลือกเว็บไซต์ที่มีเทมเพลตวงล้อให้เลือกมากมาย

    ตัวอย่างเว็บไซต์สร้างวงล้อสุ่มที่น่าสนใจ

    • Sanook Random Wheel: เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ครบครัน สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย
    • Random.org: เว็บไซต์สร้างตัวเลขสุ่มและตัวอักษรสุ่ม

    สรุป

    วงล้อสุ่มเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจและมีประโยชน์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การสร้างกิจกรรม หรือการตัดสินใจ เพียงแค่เลือกเว็บไซต์สร้างวงล้อสุ่มที่เหมาะสม คุณก็สามารถสร้างความสนุกสนานและความตื่นเต้นให้กับตัวเองและผู้อื่นได้แล้ว

    ค่า BMI

    ทำยังไงให้ค่า BMI ปกติ สุขภาพดีไปตลอดชีวิต

    ค่า BMI คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?

    ดัชนีมวลกาย หรือ BMI (Body Mass Index) เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินว่าน้ำหนักตัวของเราอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ โดยคำนวณจากน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูงยกกำลังสอง (เมตร) ค่า BMI ที่อยู่ในเกณฑ์ปกติจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง

    ทำไมต้องรักษาค่า BMI ให้ปกติ?

    • ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง: ค่า BMI ที่ไม่ปกติ เช่น อ้วนหรือผอมเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากมาย
    • เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย: การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง: การมีรูปร่างที่สมส่วนจะช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น

    วิธีทำให้ค่า BMI ปกติ

    1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน:
      • เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ไม่ทานอาหารแปรรูป อาหารทอด และอาหารที่มีน้ำตาลสูง
      • ควบคุมปริมาณอาหาร: กินให้อิ่มพอดี อย่ากินจนอิ่มเกินไป
      • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ และช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
      • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล: เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก
    2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:
      • เลือกชนิดกีฬาที่ชอบ: การออกกำลังกายที่เราชอบจะช่วยให้เราทำได้อย่างต่อเนื่อง
      • ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน: ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
      • หาคู่หูออกกำลังกาย: การออกกำลังกายกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวจะช่วยให้เราสนุกและมีแรงบันดาลใจมากขึ้น
    3. พักผ่อนให้เพียงพอ:
      • นอนหลับให้ครบ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง
      • หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอน: แสงสีฟ้าจากหน้าจอจะรบกวนการนอนหลับ
    4. ลดความเครียด:
      • หาเวลาผ่อนคลาย: เช่น การฟังเพลง การอ่านหนังสือ หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ
      • ฝึกการหายใจลึกๆ: ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล
    5. ปรึกษาแพทย์:
      • หากมีปัญหาสุขภาพ: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการลดน้ำหนัก

    เคล็ดลับเพิ่มเติม:

    • ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นจริง: การตั้งเป้าหมายที่เล็กและสามารถทำได้จะช่วยให้เราไม่ท้อแท้
    • บันทึกอาหารและการออกกำลังกาย: การบันทึกจะช่วยให้เราเห็นความคืบหน้าและปรับปรุงพฤติกรรมได้
    • หาแรงบันดาลใจ: อ่านหนังสือหรือบทความเกี่ยวกับสุขภาพ ฟังเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก

    การลดน้ำหนักและการรักษาค่า BMI ให้ปกติต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ากับความพยายามของคุณอย่างแน่นอน การมีสุขภาพที่ดีเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราสามารถมอบให้กับตัวเองได้

    อ่านเพิ่มเติม:

    แตงโมไม่ควรแช่ตู้เย็น

    ทำไมแตงโมไม่ควรแช่ตู้เย็น? เคล็ดลับเก็บแตงโมให้อร่อยนาน

    หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมแตงโมไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น คำตอบนั้นซ่อนอยู่ในการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดขึ้นเมื่อแตงโมสัมผัสกับอุณหภูมิต่ำ

    ทำไมแตงโมจึงไม่ชอบความเย็น?

    • อาการสะท้านหนาว: เมื่อแตงโมถูกนำไปแช่ในตู้เย็น เนื้อแตงโมจะเกิดอาการสะท้านหนาว (Chilling injury) ทำให้เนื้อแตงโมเปลี่ยนสีเป็นจุดๆ รสชาติจืดชืด และเนื้อสัมผัสเปลี่ยนแปลงไป
    • การสูญเสียรสชาติ: ความเย็นจะทำลายเอนไซม์ที่ช่วยให้แตงโมมีรสชาติหวานฉ่ำ ทำให้รสชาติของแตงโมลดลงอย่างเห็นได้ชัด
    • การเติบโตของเชื้อรา: แม้ว่าตู้เย็นจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่ความชื้นในตู้เย็นกลับเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้แตงโมเน่าเสียได้เร็วขึ้น

    วิธีการเก็บแตงโมให้อร่อยนาน

    • อุณหภูมิห้อง: วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บแตงโมคือการวางไว้ในที่ที่อุณหภูมิห้องปกติ หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
    • ที่ร่ม: หากอากาศร้อนจัด สามารถนำแตงโมไปเก็บไว้ในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
    • ห่อด้วยกระดาษ: การห่อแตงโมด้วยกระดาษจะช่วยดูดซับความชื้นและป้องกันไม่ให้แตงโมสัมผัสกับอากาศโดยตรง
    • อย่าตัดแบ่ง: ควรตัดแตงโมเป็นชิ้นๆ เมื่อต้องการรับประทานเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อแตงโมสัมผัสกับอากาศและเสื่อมเสีย

    เคล็ดลับเพิ่มเติม

    • เลือกแตงโมสุก: เลือกแตงโมที่สุกงอมดีจะมีรสชาติหวานอร่อยกว่าแตงโมที่ยังไม่สุก
    • สังเกตสี: แตงโมสุกจะมีสีเหลืองอ่อนบริเวณรอยต่อกับพื้นดิน
    • เคาะเบาๆ: แตงโมสุกจะให้เสียงทุ้มเมื่อเคาะเบาๆ
    • ตรวจสอบน้ำหนัก: แตงโมสุกจะมีน้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาด

    สรุป

    การเก็บแตงโมในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยรักษารสชาติและคุณค่าทางอาหารได้อย่างยาวนาน การหลีกเลี่ยงการแช่ตู้เย็นจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินกับความอร่อยของแตงโม

    เอกพันธ์บรรลือฤทธิ์

    บีบหัวใจ! ไทด์ เอกพันธ์ นำทีมช่วยชีวิตหญิงสาวกลางกระแสน้ำเชี่ยวที่แม่สาย

    ช่วงค่ำของวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวรายหนึ่งที่ติดอยู่บนรั้วกลางกระแสน้ำเชี่ยวที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่หญิงสาวพยายามเดินลัดเลาะไปตามริมน้ำเพื่อไปยังบ้านเพื่อนบ้าน แต่ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดล้มลง

    นาทีชีวิต! ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำและกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ทีมกู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงตัวผู้ประสบเหตุ เนื่องจากระดับน้ำสูงและกระแสน้ำที่แรง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความชำนาญ ทีมงานก็สามารถนำเรือเข้าไปถึงตัวหญิงสาวได้อย่างปลอดภัย

    เสียงปรบมือดังกึกก้อง เมื่อหญิงสาวถูกนำขึ้นมาจากน้ำอย่างปลอดภัย แม้จะมีอาการหนาวสั่นและบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก

    เปิดเผยค่าตัว ‘อิงฟ้า วราหะ’ ดาราลูกรัก ‘ณวัฒน์’ ทำไมถึงสู้ ‘กามิน’ ไม่ได้

    เปิดเผยค่าตัว ‘อิงฟ้า วราหะ’ ดาราลูกรัก ‘ณวัฒน์’ ทำไมถึงสู้ ‘กามิน’ ไม่ได้

    เปิดเผยค่าตัว ‘อิงฟ้า วราหะ’ ดาราลูกรัก ‘ณวัฒน์’ ทำไมถึงสู้ ‘กามิน’ ไม่ได้

    “อิงฟ้า วราหะ” หรือที่แฟนคลับรู้จักกันดีในฐานะลูกรักของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงไทย ด้วยความสามารถและเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา ทำให้เธอได้รับโอกาสในงานต่าง ๆ มากมาย แต่เรื่องของค่าตัวนั้นก็ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับดาราดาวรุ่งอย่าง “กามิน” ที่ดูเหมือนว่าค่าตัวของเขาจะยังสูงกว่าอิงฟ้าอยู่มาก

    ค่าตัวของ “อิงฟ้า” และ “กามิน”

    อิงฟ้า วราหะ ซึ่งเป็นลูกรักของ ณวัฒน์ ได้รับการสนับสนุนและดันสู่วงการบันเทิงจากเวทีประกวดนางงาม ก่อนที่จะเข้ามาในสายบันเทิงอย่างเต็มตัว งานโฆษณา งานพรีเซนเตอร์ และอีเวนต์ต่าง ๆ ของเธอมีเข้ามาไม่ขาดสาย แม้จะยังไม่ได้มีรายงานค่าตัวที่แน่ชัด แต่แหล่งข่าวหลายแห่งระบุว่า อิงฟ้ายังไม่สามารถสู้กับค่าตัวของ “กามิน” ได้

    ความแตกต่างของการเติบโตในวงการ

    แม้ว่าอิงฟ้าจะมีผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีฐานแฟนคลับที่สนับสนุนเธออยู่เสมอ แต่ “กามิน” ที่มีผลงานทั้งในวงการละครและภาพยนตร์ นั้นได้รับโอกาสในโปรเจกต์ใหญ่ ๆ มากมาย ซึ่งทำให้ค่าตัวของเขาสูงกว่าอิงฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ

    อย่างไรก็ตาม อิงฟ้ายังคงเดินหน้าทำงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มที่ และมีแนวโน้มว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าทางตลาดได้อีกมากในอนาคต

    ค่าตัวไม่ใช่ทุกอย่างในวงการบันเทิง

    แม้ว่าการพูดถึงค่าตัวจะเป็นเรื่องที่คนในวงการและแฟน ๆ ให้ความสนใจ แต่ในท้ายที่สุด การได้รับการยอมรับจากแฟนคลับและความสามารถที่แสดงออกมาในผลงานต่างหากที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในระยะยาวของดารานักแสดง


    บทความนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและการแข่งขันในวงการบันเทิงของดารารุ่นใหม่อย่าง “อิงฟ้า” และ “กามิน” ซึ่งมีทั้งความแตกต่างและความเหมือนในเส้นทางของพวกเขา และย้ำเตือนให้เรารู้ว่า ค่าตัวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญคือความสามารถและการสนับสนุนจากแฟนคลับ

    หลายคนเข้าใจผิด! นักวิทย์ชี้ชัด เมื่อพายุมา ควรปิดหรือเปิดหน้าต่าง

    หลายคนเข้าใจผิด! นักวิทย์ชี้ชัด เมื่อพายุมา ควรปิดหรือเปิดหน้าต่าง


    เมื่อเกิดพายุหรือพายุลมแรง หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าควรปิดหรือเปิดหน้าต่างเพื่อให้บ้านหรืออาคารปลอดภัยที่สุด ความเชื่อดั้งเดิมของคนจำนวนมากมักแนะนำให้เปิดหน้าต่างบางส่วนเพื่อให้ลมผ่านและลดแรงกดดันของอากาศในบ้าน แต่ความจริงทางวิทยาศาสตร์กลับแตกต่างออกไป

    คำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์

    จากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ การเปิดหน้าต่างเมื่อเกิดพายุลมแรงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะการเปิดหน้าต่างจะทำให้ลมภายนอกพัดเข้ามาภายในบ้านหรืออาคาร ซึ่งสามารถสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นภายในตัวอาคาร ทำให้โครงสร้างบ้านอ่อนแอลงและมีโอกาสเกิดความเสียหายได้มากขึ้น เช่น หลังคาอาจถูกพัดหลุด หรือแม้กระทั่งผนังอาคารก็อาจเกิดการพังทลาย

    ควรทำอย่างไรในขณะเกิดพายุ?

    เมื่อมีสัญญาณว่าพายุลมแรงกำลังจะเข้ามา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

    1. ปิดหน้าต่างและประตูให้สนิท เพื่อป้องกันลมแรงที่อาจพัดเข้ามาภายในบ้าน
    2. เสริมความแข็งแรงของหน้าต่าง ด้วยการใช้แผ่นไม้อัดหรือวัสดุแข็งที่สามารถกันลมได้
    3. เลี่ยงการอยู่ใกล้หน้าต่างหรือประตู เพราะอาจมีเศษวัสดุหรือวัตถุต่าง ๆ ถูกพายุพัดมากระทบ
    4. เก็บของนอกบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์สนามหรือกระถางต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกลมพัดมาทำลายบ้านหรือทรัพย์สิน

    ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

    ความเข้าใจผิดเรื่องการเปิดหน้าต่างในพายุเป็นหนึ่งในความเชื่อเก่าแก่ที่ถูกแพร่หลายมานาน แต่ด้วยการศึกษาล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าการปิดหน้าต่างทั้งหมดจะช่วยปกป้องโครงสร้างอาคารได้ดีกว่า นอกจากนี้ การเตรียมบ้านให้แข็งแรงและทนทานต่อแรงลมยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทำอย่างสม่ำเสมอ

    สรุป

    ในช่วงที่เกิดพายุลมแรง คำตอบที่ถูกต้องจากนักวิทยาศาสตร์คือ ควรปิดหน้าต่างและประตูให้แน่นหนา อย่าเปิดหน้าต่างตามความเชื่อเก่า ๆ ที่อาจทำให้บ้านของคุณเสียหายได้


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า