ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    Tag Archive : อาหารสุขภาพ

    อาหารบำรุงเส้นผม

    อาหารบำรุงเส้นผม: เติมความแข็งแรง เงางาม จากภายในสู่ภายนอก

    เส้นผมที่สวยสุขภาพดี ไม่ได้มาจากการบำรุงภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยอาหารที่มีประโยชน์ในการเสริมสร้างความแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก การรับประทานอาหารบำรุงเส้นผมที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีนที่จำเป็น จะช่วยให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง และผมแห้งเสียได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่ช่วยบำรุงเส้นผมของคุณให้สวยสุขภาพดี

    สารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผม

    • โปรตีน: เป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผม การได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย
    • ธาตุเหล็ก: ช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปยังรากผม หากร่างกายขาดธาตุเหล็ก อาจทำให้ผมร่วงและผมบางได้
    • สังกะสี: มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของเส้นผมและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
    • ไบโอติน (วิตามินบี 7): ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผมและเล็บ การขาดไบโอตินอาจทำให้ผมร่วงได้
    • วิตามินซี: ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นผมและหนังศีรษะ
    • วิตามินอี: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะจากความเสียหาย
    • โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6: ไขมันจำเป็นเหล่านี้ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้นและเส้นผมเงางาม

    อาหารบำรุงเส้นผมที่คุณควรรับประทาน

    1. ไข่: อุดมไปด้วยโปรตีน ไบโอติน และสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับเส้นผมแข็งแรง
    2. ปลาที่มีไขมัน: เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู และปลาซาร์ดีน เป็นแหล่งของโอเมก้า 3 และวิตามินดี ที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะและทำให้ผมเงางาม
    3. ผักใบเขียวเข้ม: เช่น ผักโขม คะน้า มีธาตุเหล็ก วิตามินเอ และวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยบำรุงรากผมและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
    4. ถั่วและเมล็ดพืช: เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดฟักทอง และเมล็ดทานตะวัน เป็นแหล่งของสังกะสี วิตามินอี และไบโอติน
    5. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่: เช่น สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี มีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการสร้างคอลลาเจน
    6. แครอท: อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงหนังศีรษะ
    7. อะโวคาโด: เป็นแหล่งของไขมันดี วิตามินอี และไบโอติน ที่ช่วยให้ผมชุ่มชื้นและเงางาม
    8. ข้าวโอ๊ต: มีสังกะสี เหล็ก และไบโอติน ซึ่งช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
    9. เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน: เช่น เนื้อไก่และเนื้อวัว เป็นแหล่งโปรตีนและธาตุเหล็กที่ดี
    10. โยเกิร์ต: มีโปรตีนและไบโอติน ซึ่งช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ

    อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพผมที่ดี

    • อาหารแปรรูป: มักมีสารอาหารน้อยและอาจมีสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผม
    • อาหารที่มีน้ำตาลสูง: อาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
    • อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง: อาจทำให้หนังศีรษะมันและอุดตันรูขุมขน

    เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อบำรุงเส้นผม

    • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้นและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
    • หลีกเลี่ยงความเครียด: ความเครียดอาจทำให้ผมร่วงได้
    • ดูแลเส้นผมอย่างอ่อนโยน: หลีกเลี่ยงการหวีผมแรงๆ และการใช้ความร้อนกับผมมากเกินไป

    สรุป

    การรับประทานอาหารที่สมดุลและอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น เป็นพื้นฐานสำคัญของการมีเส้นผมที่สวยสุขภาพดี การใส่ใจเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปกับการดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณมีเส้นผมที่แข็งแรง เงางาม และลดปัญหาผมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คำแนะนำ: ลองเพิ่มอาหารบำรุงเส้นผมเหล่านี้เข้าไปในมื้ออาหารประจำวันของคุณ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความงามให้กับเส้นผมของคุณจากภายในสู่ภายนอก

    น้ํามันถั่วเหลือง ดีไหม

    น้ำมันถั่วเหลือง: ดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพ?

    น้ำมันถั่วเหลืองป็นน้ำมันพืชที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหารอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เนื่องจากมีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของน้ำมันถั่วเหลืองต่อสุขภาพ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันถั่วเหลืองให้มากขึ้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้น้ำมันได้อย่างเหมาะสม

    ประโยชน์ของน้ำมันถั่วเหลือง

    • มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว: น้ำมันถั่วเหลืองมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFAs) สูง ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
    • มีวิตามินอี: น้ำมันถั่วเหลืองเป็นแหล่งของวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและชะลอความเสื่อมของร่างกาย
    • มีกรดไขมันโอเมก้า 3: น้ำมันถั่วเหลืองมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

    โทษของน้ำมันถั่วเหลือง

    • มีกรดไขมันโอเมก้า 6 สูง: น้ำมันถั่วเหลืองมีกรดไขมันโอเมก้า 6 สูง ซึ่งหากบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้
    • อาจผ่านกระบวนการแปรรูป: น้ำมันถั่วเหลืองส่วนใหญ่มักผ่านกระบวนการแปรรูป ซึ่งอาจทำให้สูญเสียสารอาหารบางชนิดและเกิดสารประกอบที่เป็นอันตราย
    • อาจมีการตัดแต่งพันธุกรรม (GMO): ถั่วเหลืองส่วนใหญ่ที่นำมาผลิตน้ำมันอาจมีการตัดแต่งพันธุกรรม ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพ

    คำแนะนำในการใช้น้ำมันถั่วเหลือง

    • เลือกน้ำมันถั่วเหลืองที่ผ่านกระบวนการสกัดเย็น (cold-pressed) หรือน้ำมันถั่วเหลืองออร์แกนิก เพื่อรักษาสารอาหารให้ได้มากที่สุด
    • ใช้น้ำมันถั่วเหลืองในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรบริโภคมากเกินไป
    • ใช้น้ำมันถั่วเหลืองในการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนปานกลาง เช่น ผัด หรืออบ
    • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันถั่วเหลืองในการทอดอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เนื่องจากอาจทำให้เกิดสารประกอบที่เป็นอันตราย

    สรุป

    น้ำมันถั่วเหลืองมีทั้งประโยชน์และโทษต่อสุขภาพ การเลือกใช้น้ำมันถั่วเหลืองอย่างเหมาะสมและในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากน้ำมันถั่วเหลืองโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับน้ำมันถั่วเหลือง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณ

    โทษของเต้าหู้

    โทษของเต้าหู้: กินมากไปก็ไม่ดี!

    เต้าหู้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม และสารอาหารอื่นๆ แต่การบริโภคเต้าหู้มากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน เรามาดูกันว่าโทษของเต้าหู้มีอะไรบ้าง

    1. ผลกระทบต่อฮอร์โมน

    • เต้าหู้มีสารไอโซฟลาโวน (isoflavones) ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย การบริโภคเต้าหู้มากเกินไปอาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้หญิง อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน หรือเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมในบางกรณี
    • ในผู้ชาย การบริโภคเต้าหู้มากเกินไปอาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชาย ลดจำนวนสเปิร์ม และทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์

    2. ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร

    • เต้าหู้มีสารไฟเตต (phytates) ซึ่งอาจขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด เช่น เหล็กและสังกะสี การบริโภคเต้าหู้มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุเหล่านี้
    • เต้าหู้มีใยอาหารสูง การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสีย

    3. ผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์

    • เต้าหู้มีสารกอยโตรเจน (goitrogens) ซึ่งอาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ การบริโภคเต้าหู้มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์อยู่แล้ว

    4. อาการแพ้

    • บางคนอาจมีอาการแพ้เต้าหู้ ซึ่งมีอาการตั้งแต่ผื่นคัน ปากบวม ไปจนถึงหายใจลำบาก หากมีอาการแพ้ ควรหยุดบริโภคเต้าหู้ทันที

    5. ผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคไต

    • ผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวังการบริโภคเต้าหู้ เนื่องจากเต้าหู้มีโพแทสเซียมสูง การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินไป ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไต

    คำแนะนำ

    • บริโภคเต้าหู้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป
    • หากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการผิดปกติหลังบริโภคเต้าหู้ ควรปรึกษาแพทย์
    • เลือกซื้อเต้าหู้จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลีกเลี่ยงสารปนเปื้อน

    สรุป: เต้าหู้มีประโยชน์ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพ

    Overnight Oats คือ

    Overnight Oats อาหารเช้าสุขภาพง่าย ๆ

    Overnight Oats คืออะไร?

    Overnight Oats หรือ ข้าวโอ๊ตค้างคืน เป็นเมนูอาหารเช้าสุดฮิตที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเมนูที่ทำง่าย อร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพสูง

    วิธีทำ Overnight Oats

    1. เตรียมส่วนผสม: ข้าวโอ๊ต นม (หรือเครื่องดื่มทางเลือกอื่น ๆ เช่น นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง) โยเกิร์ต ผลไม้สดหรือแห้ง ถั่ว ธัญพืช และน้ำผึ้งหรือไซรัป
    2. ผสมส่วนผสม: ผสมข้าวโอ๊ตกับนมหรือเครื่องดื่มทางเลือกอื่น ๆ ในภาชนะที่ปิดสนิท
    3. แช่เย็น: แช่ในตู้เย็นข้ามคืน
    4. ตกแต่งและเสิร์ฟ: ในตอนเช้า นำออกมาตกแต่งด้วยผลไม้สด ถั่ว ธัญพืช และน้ำผึ้งหรือไซรัปตามชอบ

    ประโยชน์ของ Overnight Oats

    • อิ่มนาน: ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
    • ไฟเบอร์สูง: ช่วยในการย่อยอาหารและสุขภาพลำไส้
    • โปรตีนสูง: ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
    • วิตามินและแร่ธาตุ: ผลไม้และธัญพืชที่เติมลงไปช่วยเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ
    • สะดวกและรวดเร็ว: สามารถเตรียมล่วงหน้าได้ ทำให้สะดวกในการรับประทานในตอนเช้า

    เคล็ดลับในการทำ Overnight Oats

    • เลือกข้าวโอ๊ต: เลือกข้าวโอ๊ตร่วนหรือข้าวโอ๊ตโรลด์
    • เลือกนมหรือเครื่องดื่มทางเลือก: เลือกชนิดที่ไม่หวานมากเกินไป
    • เพิ่มรสชาติ: เพิ่มรสชาติด้วยผลไม้สดหรือแห้ง ถั่ว ธัญพืช น้ำผึ้งหรือไซรัป
    • ปรับแต่งสูตร: ปรับสูตรให้เหมาะกับความชอบส่วนตัว
    • เก็บรักษา: เก็บรักษาในตู้เย็นไม่เกิน 2-3 วัน

    Overnight Oats เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาหารเช้าสุขภาพ สามารถปรับแต่งสูตรได้ตามความชอบและความต้องการทางโภชนาการ


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า