ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    ทำความเข้าใจ “ผิวโทนเหลือง” ของคุณ

    ผิวโทนเหลือง

    ทำความเข้าใจ “ผิวโทนเหลือง” ของคุณ

    ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าผิวโทนเหลืองหมายถึงอะไร เพื่อให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์และการดูแลผิวที่เหมาะสมที่สุด

    • ลักษณะของผิวโทนเหลือง: ไม่ได้หมายความว่าผิวของคุณเป็นสีเหลืองโดยตรง แต่หมายถึงเม็ดสีใต้ผิว (Undertone) ที่ออกไปทางเหลืองทอง ซึ่งอาจแตกต่างจากผิวโทนชมพู (Pink/Cool Undertone) หรือผิวโทนกลาง (Neutral Undertone)
    • สังเกตได้อย่างไร: ลองสังเกตเส้นเลือดบริเวณข้อมือ หากเส้นเลือดของคุณดูเป็นสีเขียวมากกว่าสีน้ำเงินหรือม่วง คุณมีแนวโน้มที่จะมีผิวโทนเหลือง นอกจากนี้ ผิวโทนเหลืองมักจะดูดีเมื่อใส่เครื่องประดับสีทองมากกว่าสีเงิน

    ปัญหาผิวที่พบบ่อยในคนผิวโทนเหลือง (และวิธีรับมือ)

    แม้ผิวโทนเหลืองจะมีข้อดีคือมักจะไม่แดงง่ายเท่าผิวโทนชมพู แต่ก็มีข้อกังวลที่พบบ่อยและวิธีการดูแลที่ควรทราบ:

    1. ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส: เนื่องจากมีเม็ดสีเหลืองเป็นพื้นฐาน เมื่อผิวเผชิญกับมลภาวะ แสงแดด หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่กระจ่างใสได้ง่าย
      • วิธีแก้: เน้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนเป็นประจำ เพื่อกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป เผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA, BHA ในความเข้มข้นต่ำ หรือเอนไซม์ผลไม้
    2. รอยดำ รอยสิว ฝ้า กระ: รอยดำที่เกิดจากการอักเสบของสิวหรือรอยฝ้ากระที่เกิดจากแสงแดด อาจดูเด่นชัดบนผิวโทนเหลือง
      • วิธีแก้: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เช่น วิตามินซี, ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก (Kojic Acid) และแน่นอนว่า “ครีมกันแดด” คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ห้ามขาด!
    3. ผิวขาดความชุ่มชื้น: ไม่ว่าผิวโทนไหนก็สามารถขาดความชุ่มชื้นได้ ซึ่งจะทำให้ผิวดูแห้งกร้าน ไม่เปล่งปลั่ง
      • วิธีแก้: เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ และดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

    เคล็ดลับการดูแลผิวสำหรับผิวโทนเหลืองให้เปล่งประกาย

    1. การทำความสะอาดผิวหน้า:
      • เลือกคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
      • ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด โดยเฉพาะหลังแต่งหน้า เพื่อไม่ให้สิ่งสกปุดอุดตันรูขุมขนและเป็นสาเหตุของความหมองคล้ำ
    2. การผลัดเซลล์ผิว:
      • ควรทำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ
      • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA ในความเข้มข้นที่เหมาะสม หรือเอนไซม์จากผลไม้ เพื่อการผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยน
    3. เซรั่มและทรีทเมนต์บำรุง:
      • วิตามินซี: เป็นพระเอกสำคัญสำหรับผิวโทนเหลือง ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
      • ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide): ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดรอยแดงรอยดำ และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
      • สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ: เช่น วิตามินอี, เฟอรูลิก แอซิด (Ferulic Acid) เพื่อปกป้องผิวจากมลภาวะและชะลอการเกิดริ้วรอย
    4. มอยส์เจอร์ไรเซอร์:
      • เลือกที่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอต่อสภาพผิวของคุณ
      • มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีจะช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู สุขภาพดี และสะท้อนแสงได้ดีขึ้น ทำให้ผิวดูสดใสไม่หมองคล้ำ
    5. ครีมกันแดด: สิ่งที่ห้ามขาด!
      • เป็นปราการด่านสำคัญที่สุดในการปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักของฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ
      • เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง (SPF 30 ขึ้นไป) และ PA+++ ขึ้นไป และทาเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดด
    6. การเลือกใช้เมคอัพ:
      • รองพื้น/คุชชั่น: ควรเลือกรองพื้นที่มีอันเดอร์โทนเหลืองทอง เพื่อให้สีผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่เทาหรือลอย
      • บลัชออน/ลิปสติก: สีโทนส้มพีช โทนอุ่นๆ หรือสีแดงอมส้ม จะช่วยขับผิวโทนเหลืองให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา

    สรุป

    การดูแลผิวสำหรับผิวโทนเหลืองเน้นไปที่การเสริมสร้างความกระจ่างใส การปกป้องผิวจากแสงแดด และการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะสามารถเผยผิวที่สวยกระจ่างใส เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ และดูมีสุขภาพดีได้อย่างแน่นอน


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า