ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    ผู้เขียน: collinbroad-admin

    วันธงชัยในเดือนกันยายน 2567 มาถึงแล้ว! มาร่วมเช็กฤกษ์ดีและวันมงคล

    วันธงชัยในเดือนกันยายน 2567 มาถึงแล้ว! มาร่วมเช็กฤกษ์ดีและวันมงคล


    สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ และกำลังมองหาฤกษ์มงคลในเดือนกันยายน 2567 มาดูกันว่าวันธงชัยในเดือนนี้มีวันไหนบ้าง วันธงชัยถือเป็นวันที่ดี เหมาะแก่การทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ ออกรถ หรืองานมงคลอื่น ๆ

    วันธงชัยในเดือนกันยายน 2567 มีดังนี้:

    • วันอังคารที่ 3 กันยายน 2567 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    • วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    • วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    • วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 แรม 7 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
    สารส้มทารักแร้

    สารส้มทารักแร้: ตัวช่วยดับกลิ่นกายจากธรรมชาติ

    สารส้มเป็นแร่ธาตุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการระงับกลิ่นกายได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เองจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารส้มทารักแร้ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นตัว

    สารส้มคืออะไร?

    สารส้ม หรือที่เรียกว่า พอแทสเซียมอะลัม (Potassium Alum) เป็นเกลือผลึกใสไม่มีสี มีคุณสมบัติในการระงับกลิ่นได้ดีเยี่ยม เนื่องจากมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัว นอกจากนี้ สารส้มยังช่วยลดการหลั่งเหงือได้ในระดับหนึ่ง ทำให้รักแร้แห้งสบายตลอดวัน

    สรรพคุณของสารส้มทารักแร้

    • ระงับกลิ่นกาย: สารส้มช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในบริเวณรักแร้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นตัว ทำให้รักแร้หอมสดชื่นตลอดวัน
    • ลดการระคายเคือง: สารส้มมีคุณสมบัติในการสมานแผลและลดการระคายเคืองของผิวหนัง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
    • ช่วยให้รักแร้ขาวขึ้น: การใช้สารส้มทารักแร้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวใต้วงแร้ดูกระจ่างใสขึ้น
    • ราคาประหยัด: สารส้มมีราคาถูกและหาซื้อง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา ร้านขายของชำ หรือร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

    วิธีใช้สารส้มทารักแร้

    • ทำความสะอาดผิว: ก่อนใช้สารส้มควรอาบน้ำทำความสะอาดผิวให้สะอาด
    • เช็ดให้แห้ง: ตบผิวใต้วงแร้ให้แห้งสนิทก่อนทาสารส้ม
    • ทาสารส้ม: ใช้สารส้มทาลงบนผิวใต้วงแร้ให้ทั่ว
    • ทาซ้ำได้ตามต้องการ: สามารถทาซ้ำได้ตลอดวันหากรู้สึกว่ามีเหงื่อออกมาก

    สารส้มเหมาะสำหรับใคร?

    สารส้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย

    ข้อควรระวังในการใช้สารส้ม

    • การแพ้: แม้ว่าสารส้มจะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ แต่บางคนก็อาจมีอาการแพ้ได้ ควรทดลองใช้ในปริมาณน้อยก่อน และหากมีอาการระคายเคืองควรหยุดใช้ทันที
    • ผิวแห้ง: สารส้มอาจทำให้ผิวแห้งได้ ควรบำรุงผิวใต้วงแร้ด้วยโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวเป็นประจำ
    • การเลือกซื้อ: ควรเลือกซื้อสารส้มจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

    สรุป

    สารส้มทารักแร้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติในการระงับกลิ่น ลดการระคายเคือง และช่วยให้ผิวขาวขึ้น ทำให้สารส้มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้สารส้มที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง และหากมีอาการแพ้ควรหยุดใช้ทันที

    เปิดเผยเส้นทางการเมืองที่น่าติดตามของสมเจตน์ บุญถนอม อดีตสว. ผู้ค้านภูมิธรรม

    เปิดเผยเส้นทางการเมืองที่น่าติดตามของสมเจตน์ บุญถนอม อดีตสว. ผู้ค้านภูมิธรรม

    ทำความรู้จัก พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม อดีตสมาชิกวุฒิสภา หลังจากที่ได้แสดงความเห็นค้านไม่ให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

    สมเจตน์ บุญถนอม คือใคร?

    สมเจตน์ บุญถนอม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 ปัจจุบันอายุ 76 ปี เขาเป็นชาวตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

    การศึกษา

    สมเจตน์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารงานอุตสาหกรรม) จากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก

    เส้นทางการเมือง

    หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 สมเจตน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เนื่องจากความใกล้ชิดกับวินัย เลขาธิการคมช.

    ต่อมาในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 สมเจตน์ได้รับหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งในจังหวัดเชียงราย และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 สมเจตน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหา

    ประสบการณ์ทำงาน

    • สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (พ.ศ. 2549-2551)
    • ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม (พ.ศ. 2549-2551)
    • สมาชิกวุฒิสภา (พ.ศ. 2554)

    ติดตามอ่านข่าวการเมืองได้ที่นี่ https://www.sanook.com/news/politic/

    ในวันคเณศจตุรถี 2567 ไหว้บูชาพระพิฆเนศเสริมสร้างโชคลาภและความสำเร็จ

    ในวันคเณศจตุรถี 2567 ไหว้บูชาพระพิฆเนศเสริมสร้างโชคลาภและความสำเร็จ


    คเณศจตุรถี
     เป็นวันสำคัญทางศาสนาฮินดูที่ชาวไทยเชื้อสายอินเดียให้ความสำคัญอย่างยิ่ง การบูชาพระพิฆเนศในวันนี้เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสำเร็จและปัดเป่าสิ่งอัปมงคล

    ของที่ควรเตรียมสำหรับการบูชา

    • เทวรูปพระพิฆเนศ: ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย
    • พาน: สำหรับวางของไหว้
    • ดอกไม้: ดอกไม้สีแดง เช่น ดอกชบา ถือเป็นสีมงคล
    • ธูป เทียน: จุดเพื่อเป็นพุทธบูชา
    • ผลไม้: กล้วย มะพร้าว (หั่นเป็นชิ้น) ส้ม แอปเปิล
    • ขนม: ขนมโมทกะ หรือขนมหวานอื่นๆ
    • น้ำ: น้ำสะอาดสำหรับสรงน้ำพระพิฆเนศ
    • ข้าวตอก: สำหรับโรย
    • น้ำแดง: เป็นเครื่องดื่มมงคล

    ขั้นตอนการบูชา

    1. เตรียมสถานที่: จัดเตรียมสถานที่ให้สะอาดและเรียบร้อย
    2. สรงน้ำพระพิฆเนศ: ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดพระพักตร์และพระวรกาย
    3. จุดธูปเทียน: จุดธูปเทียนเพื่อเป็นพุทธบูชา
    4. ถวายดอกไม้: นำดอกไม้มาปักในแจกันหรือวางรอบๆ เทวรูป
    5. ถวายผลไม้และขนม: วางผลไม้และขนมบนพาน
    6. สวดมนต์: สวดมนต์บูชาพระพิฆเนศตามความเชื่อส่วนบุคคล
    7. ขอพร: กล่าวคำขอพรตามความต้องการ

    คาถาบูชาพระพิฆเนศ (ง่ายๆ)

    • โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา: สวด 1 จบ

    หมายเหตุ: การบูชาพระพิฆเนศเป็นความเชื่อส่วนบุคคล สามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดได้ตามความเหมาะสม

    คำแนะนำเพิ่มเติม:

    • ความตั้งใจ: สิ่งสำคัญที่สุดคือความตั้งใจจริงในการบูชา
    • ความสะอาด: ควรรักษาความสะอาดในการจัดเตรียมสถานที่และของใช้
    • ความสม่ำเสมอ: การบูชาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เกิดความเป็นสิริมงคล

    ข้อควรระวัง:

    • ไม่ควรนำเนื้อสัตว์มาถวาย
    • ไม่ควรบูชาในที่สกปรกหรือไม่เหมาะสม

    การบูชาพระพิฆเนศในวันคเณศจตุรถี เป็นการแสดงความเคารพและขอพรจากพระองค์ ให้ชีวิตมีความสุข สมหวัง และประสบความสำเร็จ

    เส้นทางการเมืองของมนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวคนสนิทของชาดา ไทยเศรษฐ์

    เส้นทางการเมืองของมนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวคนสนิทของชาดา ไทยเศรษฐ์


    มนัญญา ไทยเศรษฐ์
     หรือ แหม่ม เป็นนักการเมืองชาวไทย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

    ประวัติ มนัญญา ไทยเศรษฐ์

    มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นบุตรสาวของนายเดชา และนางปาลี้ ไทยเศรษฐ์ และเป็นน้องสาวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานีหลายสมัย เธอมีบุตรชายหนึ่งคนคือ เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี มนัญญาได้รับการศึกษาที่โรงเรียนอุทัยวิทยาคม และต่อมาได้ศึกษาต่อที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต รวมถึงได้รับปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มนัญญาสมรสกับนายอนุชา ซักเซ็ค และมีบุตรทั้งสิ้น 5 คน โดยเจเศรษฐ์ บุตรชายคนโต เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 และ 2566

    เส้นทางการเมืองของมนัญญา ไทยเศรษฐ์

    มนัญญาเริ่มต้นเส้นทางการเมืองในฐานะนักการเมืองท้องถิ่น โดยเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี และลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ต่อมาได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ในนามของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเธอได้ดูแลรับผิดชอบงานของกรมวิชาการเกษตร และผลักดันนโยบายห้ามใช้สารคลอร์ไพริฟอสและพาราควอตในภาคการเกษตรของประเทศไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 มนัญญาลาออกจากพรรคภูมิใจไทย เพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี

    “แซนวิช ปภาดา” อดีตภรรยาของร็อกเกอร์ชื่อดัง เริ่มต้นความรักครั้งใหม่

    “แซนวิช ปภาดา” อดีตภรรยาของร็อกเกอร์ชื่อดัง เริ่มต้นความรักครั้งใหม่

    แซนวิช-ปภาดา โชติกวณิชย์ อดีตภรรยา เสก โลโซ เปิดตัวรักใหม่ สร้างครอบครัวอบอุ่น พร้อมเซอร์ไพรส์กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 คนร่วมแสดงความยินดีอย่างล้นหลาม

    แซนวิช-ปภาดา นักแสดงสาวและคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง เปิดใจรับรักครั้งใหม่และสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับสามีและลูกชายคนโต น้องลีออง โดยใน TikTok @Leon9 เธอได้เผยคลิปครอบครัวพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก พร้อมกับเซอร์ไพรส์ใหญ่กับข่าวการตั้งท้องลูกคนที่ 2 ที่กำลังจะคลอดเร็วๆ นี้

    เธอได้เขียนแคปชั่นบอกเล่าความรู้สึกอบอุ่นใจว่า “เส้นทางชีวิต ไม่จำเป็นต้องเลือกเฉพาะทางที่ดีที่สุด ขอแค่เป็นทางที่เรามีความสุขที่สุดก็พอ”

    นอกจากนี้ เธอยังได้แชร์ภาพอัลตร้าซาวด์ของลูกคนที่ 2 พร้อมข้อความซึ้งๆ ว่า “ขอบคุณที่เข้ามาทำให้เจอแต่ความสุข”

    หลายคนที่เห็นภาพต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีและอวยพรให้กับครอบครัวของเธออย่างท่วมท้น

    สำหรับประวัติของแซนวิช ปภาดา โชติกวณิชย์ เธอเป็นสาวใต้จากจังหวัดชุมพร ศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุและโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เคยเป็นดาวโรงเรียนและได้เป็นดาวมหาวิทยาลัยในปี 2011 แซนวิชเคยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สปี 2013 เข้ารอบ 80 คนสุดท้าย แม้จะไม่ได้เข้ารอบลึกๆ แต่เธอก็ได้รับโอกาสในวงการบันเทิง มีผลงาน

    ในวงการบันเทิง โดยเริ่มจากละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่อง “แก้วหน้าม้า” รับบทเป็น “ช่อผกา” ต่อมามีผลงานละครกับค่ายดีด้าเรื่อง “สาวน้อยอ้อยควั่น” รับบทเป็น “ครูนิด” และละครแนวบู๊เรื่อง “นักบุญทรงกลด” รับบทเป็น “เบญจวรรณ” 

    กำนันตุ้ย วิวัฒน์ นิติกาญจนา: ผู้นำที่ไม่เคยหยุดนิ่งใน

    กำนันตุ้ย วิวัฒน์ นิติกาญจนา: ผู้นำที่ไม่เคยหยุดนิ่งใน

    วิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “กำนันตุ้ย” คือบุคคลสำคัญในวงการการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดราชบุรี ผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี (อบจ.) อีกสมัย

    เส้นทางสู่ความสำเร็จ

    • รากฐานธุรกิจ: ก่อนก้าวเข้าสู่วงการการเมือง กำนันตุ้ยสร้างชื่อเสียงจากธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกรและอาหารสัตว์ของตระกูลนิติกาญจนา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดราชบุรี
    • ประสบการณ์ทางการเมือง: ด้วยความผูกพันกับท้องถิ่นและความสามารถในการบริหารจัดการ กำนันตุ้ยจึงตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมือง และได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. ราชบุรีมาแล้วหลายสมัย
    • ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม: ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง นายก อบจ. กำนันตุ้ยได้ผลักดันโครงการพัฒนาต่างๆ มากมาย อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และการส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดราชบุรี ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    จุดเด่นของกำนันตุ้ย

    • ความใกล้ชิดประชาชน: กำนันตุ้ยเป็นที่รู้จักในหมู่ประชาชนว่าเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยดี เข้าถึงง่าย และพร้อมที่จะรับฟังปัญหาของประชาชนเสมอ
    • ความมุ่งมั่นในการพัฒนา: กำนันตุ้ยมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาจังหวัดราชบุรีให้เจริญก้าวหน้า และเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ
    • ความแข็งแกร่งทางการเมือง: ด้วยประสบการณ์และความสามารถในการบริหารจัดการ กำนันตุ้ยจึงเป็นที่ยอมรับในวงการการเมือง และมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง

    บทบาทสำคัญต่อจังหวัดราชบุรี

    การได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. ราชบุรี อีกสมัย สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อกำนันตุ้ย และความคาดหวังที่จะเห็นการพัฒนาจังหวัดราชบุรีอย่างต่อเนื่องในอนาคต

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม

    • ครอบครัว: กำนันตุ้ยเป็นสามีของนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส. ราชบุรี ซึ่งทั้งคู่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะคู่สามีภรรยาที่ทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน
    • ธุรกิจครอบครัว: ตระกูลนิติกาญจนาเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกรและอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดราชบุรี
    • กีฬา: บุตรชายของกำนันตุ้ยเป็นประธานสโมสรฟุตบอลราชบุรี เอฟซี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในกีฬาและการส่งเสริมเยาวชนของครอบครัวนิติกาญจนา

    ติดตามอ่านข่าวการเมืองที่นี่ https://www.sanook.com/news/politic/

    เปิดประตูสู่โลกแห่งตำนานและความลับของ “พระกริ่งปวเรศ”

    เปิดประตูสู่โลกแห่งตำนานและความลับของ “พระกริ่งปวเรศ”

    เจาะลึกเรื่องราว: ตำนานและความลับของ “พระกริ่งปวเรศ”

    พระกริ่งปวเรศ นับเป็นหนึ่งในพระเครื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นอย่างมาก ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามและพุทธคุณที่เป็นที่เลื่อมใส ทำให้พระกริ่งปวเรศมีมูลค่าสูงลิ่วและเป็นที่กล่าวขานถึงกันอย่างกว้างขวาง

    ตำนานและที่มา

    • ปางหมอยา: พระกริ่งปวเรศเป็นพระเครื่องที่สร้างขึ้นในพุทธลักษณะปางหมอยา ซึ่งเชื่อกันว่ามีอานุภาพทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บและป้องกันอันตรายต่างๆ
    • วัดบวรนิเวศวิหาร: พระกริ่งปวเรศส่วนใหญ่จะสร้างขึ้นที่วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชน
    • ตำนาน: มีตำนานเล่าขานกันว่า พระกริ่งปวเรศมีอานุภาพในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างน่าอัศจรรย์ และยังสามารถป้องกันคุณไสยและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้อีกด้วย

    เหตุผลที่ทำให้พระกริ่งปวเรศมีมูลค่าสูง

    • ความหายาก: เนื่องจากพระกริ่งปวเรศเป็นพระเครื่องเก่าแก่และมีการสร้างจำนวนจำกัด ทำให้มีปริมาณน้อยและเป็นที่ต้องการของนักสะสม
    • พุทธคุณ: เชื่อกันว่าพระกริ่งปวเรศมีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และแคล้วคลาด
    • ความสวยงาม: รูปลักษณ์ของพระกริ่งปวเรศมีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักสะสม
    • ความเชื่อ: ความเชื่อในพุทธคุณของพระกริ่งปวเรศส่งผลให้มีผู้ต้องการครอบครองเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาสูงขึ้น

    ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา

    • อายุ: พระกริ่งปวเรศที่สร้างในยุคแรกๆ มักจะมีราคาสูงกว่าพระที่สร้างในยุคหลัง
    • วัสดุ: วัสดุที่ใช้ในการสร้างพระกริ่งปวเรศ เช่น ทองคำ เงิน หรือเนื้อผสม ก็มีผลต่อราคา
    • สภาพ: สภาพของพระกริ่งปวเรศที่สมบูรณ์และไม่มีตำหนิ จะมีราคาสูงกว่าพระที่มีตำหนิ
    • สายตา: ผู้เชี่ยวชาญในการดูพระเครื่องแต่ละท่านจะมีความเห็นที่แตกต่างกันไป ทำให้ราคาของพระกริ่งปวเรศอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

    วิธีการดูพระกริ่งปวเรศแท้

    การดูพระกริ่งปวเรศแท้นั้นจำเป็นต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างมาก โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา เช่น พิมพ์ทรง เนื้อหา สี และอายุของพระเครื่อง หากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพระเครื่อง

    ข้อควรระวัง

    การซื้อขายพระเครื่องเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง

    หมายเหตุ: ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศเท่านั้น การตัดสินใจซื้อพระเครื่องควรพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่างและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

    โรคไหลตาย! รู้หรือไม่ว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว? มาค้นหาสาเหตุและวิธีป้องกัน

    โรคไหลตาย! รู้หรือไม่ว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว? มาค้นหาสาเหตุและวิธีป้องกัน

    โรคไหลตาย: ภัยเงียบที่คุกคามชีวิต

    โรคไหลตาย หรือ ภาวะเสียชีวิตฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุขณะหลับ (Sudden Unexpected Death Syndrome: SUDS) เป็นภัยเงียบที่น่ากลัว เพราะผู้ป่วยมักเสียชีวิตอย่างกะทันหันขณะนอนหลับ โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

    สาเหตุของโรคไหลตาย

    สาเหตุหลักของโรคไหลตายมาจาก ความผิดปกติของระบบไฟฟ้าในหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงอย่างฉับพลันจนหยุดเต้น ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น

    • พันธุกรรม: โรคไหลตายบางชนิดมีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการบรูกาดา (Brugada syndrome) หรือ Long QT syndrome
    • โครงสร้างหัวใจผิดปกติ: โรคหัวใจแต่กำเนิดบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไหลตาย
    • ภาวะหัวใจขาดเลือด: การอุดตันของหลอดเลือดหัวใจอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงได้
    • ปัจจัยเสริม: การใช้ยาบางชนิด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารกระตุ้น หรือการขาดน้ำ อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคไหลตายได้ในผู้ที่มีความเสี่ยง

    ใครบ้างที่เสี่ยงต่อโรคไหลตาย?

    • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไหลตาย: ผู้ที่มีญาติสายตรงเป็นโรคไหลตายจะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
    • ผู้ที่มีโรคหัวใจ: ผู้ป่วยโรคหัวใจบางชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง โรคหัวใจวาย มีความเสี่ยงสูง
    • ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ: ผู้ที่มีประวัติหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือมีภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
    • ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดไข้ อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

    การป้องกันโรคไหลตาย

    แม้ว่าโรคไหลตายจะเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน แต่เราก็สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    • ตรวจสุขภาพประจำปี: การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้พบความผิดปกติของหัวใจได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
    • ดูแลสุขภาพ: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หายใจลำบาก หรือเวียนหัว ควรปรึกษาแพทย์ทันที
    • แจ้งประวัติครอบครัว: หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคไหลตาย ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและป้องกัน

    หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไหลตาย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

    คำเตือน: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของคุณ

    อยากรู้ว่าอะไรทำให้คุณยุวดี มีทำ ตัดสินใจก้าวออกมาจาก Comfort Zone และมาสร้างธุรกิจของตัวเองไหมคะ

    อยากรู้ว่าอะไรทำให้คุณยุวดี มีทำ ตัดสินใจก้าวออกมาจาก Comfort Zone และมาสร้างธุรกิจของตัวเองไหมคะ

    น.ส.ยุวดี มีทำ ผู้บริหารหญิงเก่งและเป็นที่รักของใครหลายคน ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์แคปหมึกชื่อดัง “Ocean Boy” ก่อนที่เธอจะก้าวเข้ามาสู่วงการธุรกิจอาหาร เธอเคยผ่านประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งพนักงานขายมาก่อนถึง 5 ปี จนก้าวขึ้นเป็น “Top Sales” ของบริษัท

    หลังจากนั้น ยุวดีก็ได้ขยับขยายบทบาทไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดให้กับบริษัทรถยนต์หรูอีกด้วย ประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้เธอมีทักษะและความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจส่วนตัวในอนาคต

    จุดเริ่มต้นของธุรกิจแคปหมึก “Ocean Boy”

    จุดเริ่มต้นของธุรกิจแคปหมึกเกิดจากความสนใจส่วนตัวและการค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่อง ยุวดีได้ศึกษาผลงานวิจัยเกี่ยวกับแคปจากปลาหมึกของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช และนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์แคปหมึกที่มีคุณภาพและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ จนเกิดเป็นแบรนด์ “Ocean Boy” ที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน

    ไม่หยุดนิ่งที่แคปหมึก

    นอกจากธุรกิจแคปหมึกแล้ว ยุวดี ยังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในด้านอื่นๆ อีกด้วย โดยเธอได้ก่อตั้งบริษัท เมนนี่ โกลบอล จำกัด ขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายอาหารเสริม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความสามารถในการบริหารธุรกิจที่หลากหลายของเธอ

    • ปี 2561 รายได้ 117,209 บาท ขาดทุน 195,284 บาท
    • ปี 2562 รายได้ 96,100 บาท ขาดทุน 2,175 บาท

    ปี 2562 มีสินทรัพย์รวม 918,539 บาท หนี้สินรวม 168,500 บาท

    บริษัท แคปหมึก ฟู้ดแอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2561 พบรายชื่อ น.ส.ยุวดี มีทำ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และถือหุ้นจำนวน 5,000 หุ้น (10.00%) มูลค่าหุ้น 522,631 บาท ปัจจุบันทุนจดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 ล้านบาท โดนมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

    • ปี 2564 รายได้ 8,117,209 บาท กำไร 100,388 บาท
    • ปี 2565 รายได้ 4,254,781 บาท กำไร 337,935 บาท
    • ปี 2566 รายได้ 3,601,297 บาท กำไร 162,820 บาท

    ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 6,798,896 บาท หนี้สินรวม 1,572,590 บาท


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า