ข่าวสารวันนี้

ส่องข่าวสาร แวดวงการเมือง อัปเดตรายวัน

    อาหารกลิ่นแรงแต่มีประโยชน์: เผยเคล็ดลับการทานอาหารสุขภาพที่อร่อยและมีประโยชน์

    อาหารกลิ่นแรงแต่มีประโยชน์

    อาหารกลิ่นแรงแต่มีประโยชน์: เผยเคล็ดลับการทานอาหารสุขภาพที่อร่อยและมีประโยชน์

    อาหารที่มีกลิ่นแรงนั้นมักถูกมองข้ามไป เนื่องจากกลิ่นที่ฉุนและรสชาติที่เข้มข้น แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารเหล่านี้กลับอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย วันนี้เราจะพาคุณไปพบกับอาหารกลิ่นแรงแต่มีประโยชน์เหล่านี้ พร้อมเผยเคล็ดลับการทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด

    ทำไมอาหารกลิ่นแรงถึงมีประโยชน์?

    อาหารที่มีกลิ่นแรงมักจะมีสารประกอบทางเคมีที่เรียกว่า ฟีโตนิวเทรียนต์ (phytonutrients) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหาย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคความเสื่อมของสมอง นอกจากนี้ อาหารกลิ่นแรงยังมีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย และมีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

    ตัวอย่างอาหารกลิ่นแรงที่มีประโยชน์

    • กระเทียม: ช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอล และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
    • หอมแดง: ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
    • หัวหอม: ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ช่วยลดการอักเสบ และมีวิตามินซีสูง
    • ขิง: ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมีฤทธิ์แก้อักเสบ
    • กะเพรา: ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
    • ปลา: ปลาบางชนิด เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล มีกลิ่นคาว แต่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งดีต่อหัวใจและสมอง

    เคล็ดลับการทานอาหารกลิ่นแรง

    • ปรุงรส: การปรุงรสด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศอื่นๆ จะช่วยลดกลิ่นฉุนและเพิ่มรสชาติให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้น
    • ผสมกับอาหารอื่น: การนำอาหารกลิ่นแรงไปผสมกับอาหารชนิดอื่น เช่น สลัด ผัด หรือต้ม จะช่วยลดความเข้มข้นของกลิ่น
    • ค่อยๆ ปรับ: หากไม่คุ้นเคยกับกลิ่นแรง ให้เริ่มจากการใช้อาหารกลิ่นแรงในปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ
    • เลือกวัตถุดิบสดใหม่: อาหารสดใหม่จะมีกลิ่นที่ไม่ฉุนมากนัก และมีรสชาติที่อร่อยกว่า

    เมนูอาหารกลิ่นแรงที่น่าลอง

    • ผัดกระเพราหมูสับ: เมนูโปรดของคนไทย ที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากเนื้อหมู และสารต้านอนุมูลอิสระจากใบกะเพรา
    • ต้มยำกุ้ง: ซุปที่มีรสชาติจัดจ้าน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
    • แกงเขียวหวานไก่: แกงที่มีรสชาติเข้มข้น อุดมไปด้วยสมุนไพรไทย
    • ส้มตำ: ส้มตำไทยรสแซ่บ มีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย

    สรุป

    อาหารกลิ่นแรงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากรู้จักวิธีการปรุงและเลือกทานให้ถูกวิธี อาหารเหล่านี้จะกลายเป็นอาหารสุขภาพที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กับเมนูอาหารของคุณดูนะคะ

    น้ำตาเทียม

    น้ำตาเทียม ดีไหม? ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงดวงตาที่คุณควรรู้

    ปัญหาตาแห้ง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ใช้สายตามากเกินไป เช่น ผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ หรือผู้สูงอายุ อาการตาแห้งนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายตา ยังอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาวได้อีกด้วย

    น้ำตาเทียม จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาตาแห้ง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง แสบตา และคันตาได้เป็นอย่างดี แต่หลายคนก็ยังคงสงสัยว่า น้ำตาเทียมดีจริงหรือ? มีประโยชน์อย่างไร? และควรเลือกใช้น้ำตาเทียมแบบไหนดี?

    น้ำตาเทียม คืออะไร?

    น้ำตาเทียมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบน้ำตาธรรมชาติ มีส่วนประกอบหลักคือน้ำและสารหล่อลื่น เช่น โพลีเอทิลีนไกลคอล (Polyethylene Glycol) หรือไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยเคลือบผิวตาและรักษาความชุ่มชื้น

    ประโยชน์ของน้ำตาเทียม

    • ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง: เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ช่วยลดอาการระคายเคือง แสบตา คันตา และทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น
    • ป้องกันการระคายเคือง: สร้างชั้นป้องกันบนผิวตา ช่วยลดการเสียดสีระหว่างเปลือกตาและดวงตา
    • ช่วยให้การใส่คอนแทคเลนส์สบายขึ้น: ลดอาการระคายเคืองที่เกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์
    • ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับดวงตาหลังการผ่าตัด: เช่น หลังการผ่าตัดต้อกระจก

    น้ำตาเทียม เหมาะสำหรับใคร?

    • ผู้ที่มีอาการตาแห้งเรื้อรัง
    • ผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
    • ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์
    • ผู้สูงอายุ
    • ผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งและมีลมแรง
    • ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดตา

    วิธีเลือกน้ำตาเทียม

    น้ำตาเทียมมีหลายชนิดและหลายยี่ห้อให้เลือก โดยมีส่วนประกอบและความเข้มข้นของสารหล่อลื่นที่แตกต่างกัน การเลือกน้ำตาเทียมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพของดวงตาและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาเภสัชกรหรือจักษุแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ

    ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกน้ำตาเทียม:

    • ความเข้มข้นของสารหล่อลื่น: เลือกความเข้มข้นที่เหมาะสมกับระดับความแห้งของดวงตา
    • ชนิดของสารกันเสีย: บางคนอาจแพ้สารกันเสียในน้ำตาเทียม ควรเลือกชนิดที่ไม่มีสารกันเสียหรือมีสารกันเสียชนิดที่ไม่ระคายเคือง
    • ความถี่ในการใช้: เลือกชนิดที่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันหรือสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
    • ราคา: น้ำตาเทียมมีราคาแตกต่างกันไป ควรเลือกชนิดที่เหมาะสมกับงบประมาณ

    ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม

    • อ่านฉลากอย่างละเอียด: ก่อนใช้ควรอ่านฉลากเพื่อดูส่วนประกอบและวิธีใช้ให้ถูกต้อง
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสปลายขวดกับดวงตา: เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค
    • หยุดใช้และปรึกษาแพทย์: หากมีอาการแพ้หรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ เกิดขึ้น

    สรุป

    น้ำตาเทียมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของดวงตาและปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

    ข้อดีของการติดกล้องหน้ารถเพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

    ข้อดีของการติดกล้องหน้ารถเพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

    การติดกล้องหน้ารถไม่ได้แค่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ช่วยลดความเครียดจากการขับขี่ในที่มีการจราจรหนาแน่น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจว่ามีหลักฐานบันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจนหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

    ข้อดีของการติดกล้องหน้ารถในการเสริมสุขภาพจิต

    การมีกล้องติดรถยนต์ช่วยลดความเครียดและความกังวลในการขับขี่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องขับรถในพื้นที่จราจรติดขัด การมีกล้องช่วยบันทึกเหตุการณ์ตลอดการเดินทางทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาว

    วิธีการติดตั้งกล้องหน้ารถเพื่อประโยชน์ที่สูงสุด

    1. เลือกกล้องที่มีความคมชัดสูง – ควรเลือกกล้องที่บันทึกภาพได้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากมีอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ บนท้องถนน
    2. ติดตั้งในจุดที่เหมาะสม – ควรติดกล้องให้ไม่บดบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ ควรเลือกจุดที่ใกล้กระจกมองหลังและไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
    3. ตรวจสอบระบบการทำงานของกล้อง – หมั่นตรวจสอบการทำงานของกล้องเป็นประจำว่าบันทึกได้ตามปกติ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้ในยามที่ต้องการ

    เลือกติดกล้องที่เหมาะสมกับรถยนต์

    ผู้ขับขี่ควรเลือกกล้องติดรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้อย่างทนทานและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อมและทุกฤดูกาล อีกทั้งกล้องที่มีคุณภาพสูงจะสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจนเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

    วันเสาร์นี้ใส่เสื้อสีไหนเรียกโชค เลขเด็ดมาพร้อมดวง

    วันเสาร์นี้ใส่เสื้อสีไหนเรียกโชค เลขเด็ดมาพร้อมดวง

    วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เป็นวันหวยออกที่ตรงกับวันเสาร์ เชื่อกันว่าการเลือกสีเสื้อให้เหมาะสมกับวันหวยออกนั้นสามารถช่วยเสริมดวงด้านโชคลาภและความเป็นมงคลในชีวิตได้อย่างมาก ในครั้งนี้เราจะแนะนำสีเสื้อที่เหมาะสมสำหรับวันเสาร์เพื่อเสริมโชคลาภ เพิ่มโอกาสรับทรัพย์ให้ได้มากที่สุด

    สีเสื้อมงคลที่แนะนำสำหรับวันหวยออก (วันเสาร์)

    1. สีแดง – สีแดงเป็นสีที่ทรงพลังและดึงดูดโชคลาภ เป็นสีที่เหมาะกับการเพิ่มพลังงานและความมุ่งมั่นในการเสี่ยงโชค
    2. สีดำ – สีที่แสดงถึงความมั่นคงและปกป้อง เชื่อกันว่าสีดำช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีและเสริมดวงให้เป็นที่เคารพ ทำให้มีพลังในการดึงดูดโชคลาภเข้ามา
    3. สีทอง – สีทองเป็นสีที่เชื่อว่าช่วยเรียกเงินเรียกทอง และเสริมดวงทางด้านการเงิน ช่วยให้คุณมีโอกาสในการรับโชคลาภเพิ่มขึ้น

    เลือกสีเสื้อตามความเชื่อเพื่อเพิ่มพลังด้านโชคลาภ

    การเลือกสีเสื้อไม่เพียงแค่เสริมด้านโชคลาภเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและเสริมสุขภาพจิตใจในวันหวยออก สีที่แนะนำควรเป็นสีที่เสริมดวงตามวันเสาร์ เช่น สีแดง สีดำ และสีทอง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับโชคลาภ

    ทริคเล็กๆ ในการเสริมโชคลาภ

    ลองใช้กระเป๋าสตางค์สีที่เข้ากับสีมงคลในวันเสาร์ เช่น กระเป๋าสตางค์สีทอง สีแดง เพื่อเสริมโชคลาภด้านการเงิน หรือใส่เครื่องประดับที่มีสีสันใกล้เคียงเพื่อเสริมพลังให้มากยิ่งขึ้น

    ดื่มกาแฟหลังตื่นนอน

    ดื่มกาแฟหลังตื่นนอน: ดีหรือไม่ดี? มาไขข้อข้องใจกัน

    หลายคนคงคุ้นเคยกับการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟสักแก้ว เพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและช่วยให้ร่างกายตื่นตัว แต่การดื่มกาแฟหลังตื่นนอนทันทีนั้นดีต่อสุขภาพหรือไม่? มาไขข้อข้องใจกัน

    ทำไมเราถึงอยากดื่มกาแฟตอนเช้า?

    • คาเฟอีน: สารกระตุ้นในกาแฟช่วยเพิ่มระดับอะดรีนาลีน ทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉงและตื่นตัวมากขึ้น
    • รสชาติ: รสชาติของกาแฟที่หอมกรุ่น ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความสุข
    • นิสัย: การดื่มกาแฟตอนเช้ากลายเป็นนิสัยของหลาย ๆ คน ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน

    ดื่มกาแฟหลังตื่นนอนดีหรือไม่?

    ข้อดี:

    • เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า: คาเฟอีนช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและพร้อมทำงาน
    • ช่วยให้ตื่นนอนง่ายขึ้น: สำหรับผู้ที่นอนหลับยาก การดื่มกาแฟอาจช่วยให้ตื่นนอนได้ง่ายขึ้น
    • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะอาจช่วยเพิ่มสมาธิและความสามารถในการทำงาน

    ข้อเสีย:

    • ทำให้นอนไม่หลับ: การดื่มกาแฟในช่วงเย็นหรือก่อนนอน อาจส่งผลต่อการนอนหลับ ทำให้หลับยากหรือหลับไม่สนิท
    • เพิ่มความวิตกกังวล: คาเฟอีนอาจทำให้รู้สึกกระวนกระวายใจและวิตกกังวลมากขึ้น
    • ทำให้อ่อนเพลีย: หากดื่มกาแฟมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการเพลียและอ่อนล้าได้ในระยะยาว
    • ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร: การดื่มกาแฟตอนท้องว่าง อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรือแสบร้อนกลางอกได้

    ดื่มกาแฟอย่างไรให้ปลอดภัย?

    • ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ: ไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน
    • เลือกกาแฟที่ไม่ใส่น้ำตาลมาก: น้ำตาลจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้รู้สึกเพลีย
    • ดื่มกาแฟหลังอาหาร: การดื่มกาแฟหลังอาหารจะช่วยลดผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร
    • หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงเย็นหรือก่อนนอน: เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการนอนหลับ
    • หากมีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มกาแฟ

    สรุป: การดื่มกาแฟหลังตื่นนอนนั้นไม่ผิด แต่ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะและเลือกเวลาที่เหมาะสม หากคุณมีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าการดื่มกาแฟจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณ

    อาหารแก้กรดไหลย้อน

    อาหารแก้กรดไหลย้อน: บรรเทาอาการแสบร้อนด้วยอาหารเหล่านี้

    กรดไหลย้อน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน สาเหตุหลักมาจากการที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอบ่อยๆ และมีรสเปรี้ยวในปาก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงการเลือกทานอาหารที่เหมาะสม

    อาหารแก้กรดไหลย้อน

    • ผักใบเขียว: ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า ผักโขม และกะหล่ำปลี มีใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
    • ผลไม้: เลือกทานผลไม้ที่มีความเป็นกรดต่ำ เช่น กล้วย แอปเปิล (ปอกเปลือก) แตงโม และมะละกอสุก
    • ธัญพืช: ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และข้าวบาร์เลย์ มีใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด
    • โปรตีน: เลือกทานโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น ไก่ไม่ติดหนัง ปลา เนื้อวัวไม่ติดมัน และไข่ขาว
    • นม: นมไขมันต่ำหรือนมพร่องมันเนย ช่วยเคลือบหลอดอาหารและลดอาการแสบร้อน
    • น้ำเปล่า: การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก

    อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

    • อาหารรสจัด: อาหารรสจัด เช่น พริก กระเทียม และเครื่องเทศต่างๆ จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
    • อาหารทอดและมันเจียว: อาหารทอดและมันเจียวมีไขมันสูง ย่อยยาก และทำให้เกิดอาการท้องอืด
    • อาหารรสเปรี้ยว: ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว และสับปะรด จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
    • กาแฟ ชา และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน: คาเฟอีนจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
    • แอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์จะระคายเคืองเยื่อบุหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร

    เคล็ดลับเพิ่มเติม

    • ทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อ: การทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อจะช่วยลดภาระในการทำงานของกระเพาะอาหาร
    • เคี้ยวอาหารให้ละเอียด: การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด
    • เลิกสูบบุหรี่: บุหรี่จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดบริเวณหลอดอาหารอ่อนแรงลง ทำให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น
    • หลีกเลี่ยงการนอนราบหลังทานอาหารทันที: ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 ชั่วโมง
    • ยกหัวเตียงให้สูงขึ้น: การยกหัวเตียงให้สูงขึ้นประมาณ 15-20 เซนติเมตร จะช่วยลดแรงดันในกระเพาะอาหาร

    ข้อควรระวัง: หากอาการกรดไหลย้อนไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

    บทสรุป

    การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นสิ่งสำคัญในการบรรเทาอาการกรดไหลย้อน การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารแก้กรดไหลย้อน ที่เราแนะนำไปข้างต้น และหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น

    สูตรไข่ดองน้ำปลา

    สูตรไข่ดองน้ำปลา ทำง่าย อร่อยถึงใจ!

    ไข่ดองน้ำปลา เมนูทานเล่นสุดคลาสสิก ที่ใครๆ ก็ทำได้ แถมยังอร่อยถูกปากอีกด้วยค่ะ วิธีทำก็ง่ายนิดเดียว แค่มีส่วนผสมไม่กี่อย่างก็สามารถทำได้ที่บ้านแล้ว มาดูสูตรและขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ

    ส่วนผสมทำไข่ดองน้ำปลา

    • ไข่ไก่สด
    • น้ำปลา
    • น้ำตาลปี๊บ
    • น้ำเปล่า
    • กระเทียม (สำหรับโรยหน้า)
    • พริกขี้หนู (สำหรับโรยหน้า)
    • หอมแดง (สำหรับโรยหน้า)
    • น้ำมะนาว (สำหรับโรยหน้า)

    อุปกรณ์

    • หม้อ
    • ช้อน
    • ขวดโหลแก้ว

    วิธีทำไข่ดองน้ำปลา

    1. เตรียมน้ำดอง: ตวงน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าใส่หม้อ คนให้เข้ากัน ตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด จากนั้นปิดไฟ พักให้เย็นสนิท
    2. เตรียมไข่: ล้างไข่ไก่ให้สะอาด ตอกไข่ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ทิ้งไข่ขาวไป (หรือจะนำไปทำเมนูอื่นๆ ต่อก็ได้)
    3. ดองไข่: นำไข่แดงที่แยกไว้ใส่ลงในน้ำดองที่เย็นแล้ว ปิดฝาขวดโหลให้สนิท นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 คืน หรือจนกว่าไข่แดงจะมีความหนึบตามต้องการ
    4. จัดเสิร์ฟ: นำไข่ดองออกจากตู้เย็น ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียม พริกขี้หนู หอมแดงซอย และบีบน้ำมะนาวเล็กน้อย ก่อนเสิร์ฟ

    เคล็ดลับสูตรไข่ดองน้ำปลาเด็ด

    • เลือกไข่ไก่สด: เพื่อให้ได้ไข่ดองที่มีคุณภาพดี
    • น้ำดอง: ปรับปริมาณน้ำปลา น้ำตาล และน้ำเปล่าได้ตามชอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปาก
    • ระยะเวลาการดอง: ปรับระยะเวลาการดองได้ตามความชอบ หากต้องการไข่แดงที่หนึบมากขึ้น สามารถดองทิ้งไว้ได้นานขึ้น
    • น้ำจิ้ม: นอกจากจะรับประทานไข่ดองเปล่าๆ แล้ว สามารถทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือน้ำจิ้มพริกก็อร่อย

    ไข่ดองน้ำปลา เป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน แต่ได้รสชาติที่อร่อย กลมกล่อม เหมาะสำหรับทานเป็นอาหารว่าง หรือทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ลองทำตามสูตรนี้ดูนะคะ รับรองว่าติดใจแน่นอน

    คำแนะนำเพิ่มเติม:

    • ความปลอดภัย: ควรเลือกภาชนะที่สะอาดในการทำไข่ดอง และควรเก็บไข่ดองในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
    • วัตถุดิบอื่นๆ: สามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆ ลงไปในน้ำดองได้ เช่น ใบเตย หรือสมุนไพรชนิดอื่นๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่หลากหลาย
    • การปรับรสชาติ: หากต้องการรสชาติที่เผ็ดมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณพริกขี้หนูได้ หรือหากต้องการรสชาติที่หวานน้อยลง สามารถลดปริมาณน้ำตาลได้

    ขอให้สนุกกับการทำอาหารนะคะ!

    ลอยกระทง 2567

    ลอยกระทงออนไลน์ 2567: สืบสานประเพณีไทย สร้างสรรค์โลกสีเขียว

    เทศกาลลอยกระทง เป็นประเพณีไทยอันงดงามที่สืบทอดกันมาช้านาน แต่ในปัจจุบัน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงเห็นแนวคิดใหม่ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมและความใส่ใจสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ การลอยกระทงออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2567 นี้

    ทำไมต้องลอยกระทงออนไลน์?

    • ลดปริมาณขยะ: การลอยกระทงแบบเดิมๆ สร้างขยะจำนวนมากจากวัสดุที่ย่อยสลายยาก เช่น โฟม พลาสติก การลอยกระทงออนไลน์ช่วยลดปัญหาขยะและรักษาความสะอาดของแหล่งน้ำ
    • สืบสานประเพณี: แม้จะเป็นการลอยกระทงแบบออนไลน์ แต่ก็ยังคงความหมายและวัตถุประสงค์ของประเพณีเดิมๆ คือ การขอขมาพระแม่คงคา และขอพรให้ชีวิตมีความสุข
    • เข้าถึงง่าย: ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถร่วมกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    • สร้างสรรค์: มีกิจกรรมและรูปแบบการลอยกระทงออนไลน์ที่หลากหลายให้เลือก ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้สนุกสนานและสร้างสรรค์

    รูปแบบการลอยกระทงออนไลน์ที่น่าสนใจ

    • การสร้างกระทงเสมือนจริง: หลายเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้พัฒนาฟังก์ชันการสร้างกระทงเสมือนจริง ผู้ใช้งานสามารถเลือกวัสดุ รูปแบบ และตกแต่งกระทงได้ตามใจชอบ ก่อนนำไปลอยในโลกออนไลน์
    • การร่วมกิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย: มีการจัดกิจกรรมต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย เช่น การแชร์ภาพกระทงที่ทำเอง การเขียนคำอธิษฐาน และการร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับประเพณีลอยกระทง
    • การบริจาค: บางแพลตฟอร์มอนุญาตให้ผู้ใช้งานบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือโครงการช่วยเหลือสังคม

    ประโยชน์ที่ได้รับจากการลอยกระทงออนไลน์

    • ส่งเสริมจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: การเลือกใช้วิธีการลอยกระทงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับผู้คน
    • สร้างความสามัคคี: การร่วมกิจกรรมออนไลน์ทำให้ผู้คนได้มีปฏิสัมพันธ์และแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน
    • ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย: การสืบทอดประเพณีลอยกระทงผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยให้วัฒนธรรมไทยเป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

    ข้อควรพิจารณา

    • เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ: ก่อนตัดสินใจร่วมกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ ควรเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย และมีกิจกรรมที่หลากหลาย
    • ร่วมกันสร้างสรรค์: แบ่งปันไอเดียและความคิดเห็นกับคนรอบข้าง เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ที่สนุกสนานและมีประโยชน์
    • ส่งเสริมให้คนอื่นๆ ร่วมกิจกรรม: ชวนเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง และคนในชุมชนมาร่วมกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ เพื่อขยายผลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    สรุป

    การลอยกระทงออนไลน์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสืบสานประเพณีไทย และในขณะเดียวกันก็ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย การร่วมกิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสุขให้กับตนเอง แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

    ลอยกระทงออนไลน์ รักษ์โลกไปกับเราได้แล้ววันนี้ ที่นี่ >> https://season.sanook.com/loykrathong/

    5 อันดับแหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่คุณควรรู้ มีอะไรบ้าง

    5 อันดับแหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่คุณควรรู้ มีอะไรบ้าง

    ในยุคปัจจุบัน หลายคนหันมาหาคาเฟอีนจากแหล่งธรรมชาติมากขึ้น เพราะเชื่อว่าดีต่อสุขภาพมากกว่าการรับคาเฟอีนจากเครื่องดื่มสำเร็จรูป เช่น กาแฟและเครื่องดื่มพลังงาน วันนี้เราจะพาคุณแม่หยัวและทุกคนมาดู 5 แหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่มีปริมาณคาเฟอีนสูงสุดถึงต่ำสุด

    1. กาแฟอาราบิก้า (Arabica Coffee)

    กาแฟอาราบิก้าให้คาเฟอีนสูงสุดที่ประมาณ 60-70 มก. ต่อถ้วยมาตรฐาน และเป็นแหล่งคาเฟอีนยอดนิยมของคนทั่วโลก โดยมีรสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นตัวเลือกแรกสำหรับคนที่ต้องการความตื่นตัวทันที

    2. ชามัทฉะ (Matcha Tea)

    ชาเขียวมัทฉะจากญี่ปุ่นมีคาเฟอีนประมาณ 40-70 มก. ต่อถ้วย และมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างมากมาย ชามัทฉะเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ ที่ต้องการคาเฟอีนในปริมาณกลาง ๆ และช่วยให้ตื่นตัวนานกว่า

    3. ช็อกโกแลตดาร์ก (Dark Chocolate)

    ดาร์กช็อกโกแลตเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งคาเฟอีนธรรมชาติที่ดี เพราะมีคาเฟอีนประมาณ 12 มก. ต่อ 28 กรัม ซึ่งช่วยให้ตื่นตัวได้เล็กน้อย และยังมีสารฟีนิลเอธิลามีนที่ช่วยให้ความรู้สึกมีความสุข

    4. กระวานดำ (Black Cardamom)

    กระวานดำอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักว่าเป็นแหล่งคาเฟอีน แต่ให้คาเฟอีนประมาณ 10 มก. และสามารถนำมาใส่ในเครื่องดื่มเช่น ชา เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่เพิ่มขึ้น

    5. กระชายดำ (Kra Chai Dam)

    แม้จะเป็นแหล่งคาเฟอีนที่มีคาเฟอีนต่ำสุด แต่กระชายดำกลับเป็นสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและเสริมสมรรถภาพ โดยเหมาะสำหรับคนที่อยากได้พลังเพิ่มโดยไม่ทำให้กระวนกระวาย

    สรุป

    การเลือกแหล่งคาเฟอีนจากธรรมชาติตามลำดับนี้สามารถทำได้ตามความชอบ และหากคุณแม่หยัวต้องการคาเฟอีนต่ำก็สามารถเลือกกระชายดำได้ เพื่อเสริมพลังในแต่ละวันอย่างเป็นธรรมชาติ

    เปิดกรุสมุนไพรล้านนา “มะแขว่น” ที่ซ่อนพลังบำรุงผิว

    เปิดกรุสมุนไพรล้านนา “มะแขว่น” ที่ซ่อนพลังบำรุงผิว

    มะแขว่น” หรือ “ฮก” เป็นสมุนไพรที่โดดเด่นในวัฒนธรรมล้านนา ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวเหนือซึ่งนิยมนำมาใช้ในอาหารและยาสมุนไพรมายาวนาน ด้วยรสเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้ “มะแขว่น” เป็นที่นิยมอย่างมากในการปรุงอาหารพื้นบ้าน เช่น ลาบ แกงโฮะ และแกงฮังเล นอกจากนี้ ยังถูกนำมาใช้ในศาสตร์ความงามของพระสนมล้านนา หรือ “แม่หยัว” ที่ต้องการมีผิวพรรณเปล่งปลั่งและสดใส

    ตำนานและความสำคัญของ “มะแขว่น” ในล้านนา “มะแขว่น” มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ล้านนามาหลายร้อยปี ในฐานะสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคและบำรุงสุขภาพ บรรเทาอาการท้องอืด ปวดข้อ และเสริมสมรรถภาพการย่อยอาหาร ทำให้เป็นที่รักและยอมรับในวัฒนธรรมล้านนา นอกจากการใช้งานทางการแพทย์แล้ว “มะแขว่น” ยังแฝงด้วยคุณค่าทางจิตวิญญาณ ชาวล้านนาเชื่อว่าการนำสมุนไพรชนิดนี้มาใช้สามารถช่วยปรับสมดุลร่างกายได้อย่างดี

    “มะแขว่น” กับความงามของพระสนมล้านนา นอกจากบทบาทในครัวแล้ว “มะแขว่น” ยังถูกใช้ในการดูแลผิวพรรณของพระสนมในวังล้านนา โดย “มะแขว่น” มีสารที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด ช่วยปรับสมดุลภายใน ทำให้ผิวพรรณสดใสและดูอ่อนเยาว์ และกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “อาวุธลับ” ของเหล่าพระสนม

    วิธีการใช้ “มะแขว่น” เพื่อความงาม

    • การใช้ “มะแขว่น” ต้มกับน้ำใช้เป็นสเปรย์ฉีดผิว ช่วยบำรุงผิวให้ดูสดใส
    • ใช้เป็นส่วนผสมในสครับผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม
    • ใช้ “มะแขว่น” เป็นส่วนประกอบในน้ำมันหอมระเหย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดการปวดเมื่อย

    สรุป “มะแขว่น” ไม่เพียงแต่เป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าทางด้านสุขภาพและอาหาร แต่ยังเป็นตัวแทนของภูมิปัญญาท้องถิ่นล้านนา ซึ่งสืบทอดมาอย่างยาวนาน การนำ “มะแขว่น” มาใช้ในการดูแลผิวพรรณและบำรุงสุขภาพ ทำให้คนรุ่นใหม่เห็นถึงความสำคัญของสมุนไพรไทยที่มีคุณค่าสูงและยังประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย


    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า